นางฉวีวรรณ คำพา นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า จากความต้องการบริโภคเนื้อไก่เพิ่มขึ้นเพื่อทดแทนเนื้อหมูที่ราคาแพง ประกอบกับต้นทุนการผลิตอาหารสัตว์ที่เพิ่มต่อเนื่องมากว่า 1 ปี ทำให้ผู้เลี้ยงไก่ได้ปรับขึ้นราคาหน้าฟาร์ม โดยปัจจุบันเฉลี่ยที่ 38-40 บาทต่อ กก. เพิ่มจากช่วงโควิดระบาดที่ขายเฉลี่ย 33-35 บาทต่อ กก. แต่ถือว่าขึ้นไม่มาก เพราะมากกว่าจากต้นทุนคนเลี้ยงที่ 36-38 บาทต่อ กก. เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

“ที่ผ่านมา ผู้เลี้ยงไก่ต้องขาดทุนมาตลอด ทั้งประสบปัญหาต้นทุนการเลี้ยงสูงขึ้น จากอาหารสัตว์ แม่พันธุ์ แถมขาดเงินทุน ทำให้รายย่อยหยุดเลี้ยงไปกว่า 30% แต่ภาครัฐก็ไม่ได้เข้ามาช่วยเลย หากจะห้ามขอขึ้นราคาก็ขอให้ฟังเหตุผลจากคนเลี้ยงบ้าง และต้องเข้ามาช่วยลดต้นทุนการเลี้ยงให้ด้วย ส่วนแนวโน้มราคาไก่หน้าฟาร์ม ช่วงตรุษจีนอาจจะปรับขึ้นบ้างแต่ไม่มาก ประมาณ กก. 2 บาท เพราะวงจรการเลี้ยงไก่ใช้เวลาไม่นาน 45-50 วัน ทำให้มีปริมาณผลผลิตทดแทนกันได้”

อย่างไรก็ดี อุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์ของไทย กำลังประสบกับปัญหาต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่เป็นต้นทุนหลัก 60% ของต้นทุนการเลี้ยงอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะช่วงปี 2-3 ปีที่ผ่านมา เกษตรกรต้องประสบการขาดทุนสะสม โดยปี 64 วัตถุดิบอาหารสัตว์ปรับสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ถึง 30-40% รวมถึงปีนี้ยังมีแนวโน้มอาหารสัตว์จะเพิ่มขึ้นได้อีก ซึ่งล่าสุดราคาข้าวโพดขึ้นเป็น กก. 11 บาท  กากถั่วเหลืองเพิ่มจาก 17 บาท เป็น 20 บาท รวมถึงน้ำมันปาล์มขึ้นเป็น 55 บาท