เมื่อวันที่ 15 ก.พ.65 พ.ต.ท.ไพบูลย์ เลาหะนะวัฒน์ สารวัตรสอบสวน สภ.สัตหีบ รับแจ้งเหตุลูกค้ากินแล้วไม่จ่ายเงินค่าอาหารเครื่องดื่ม และก่อความวุ่นวายภายในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ก่อนออกจากร้านไปซ่อนตัวอยู่ในห้องพักโรงแรมบูรพารีสอร์ท ซอยสัตหีบสุขุมวิท 69 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงวิทยุสั่งการให้สายตรวจเข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบ นายสิทธิพร พัฒนารังคะ อายุ 28 ปี ผู้จัดการร้านอาหาร พร้อมเด็กเสิร์ฟภายในร้านราว 10 คน กำลังปิดล้อมห้องพักลูกค้าที่ไม่จ่ายเงิน ถูกล็อกประตูจากด้านใน ทำให้ 2 ฝ่าย เกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง จนฝ่ายลูกค้าเกิดความโกรธทุบทำลายมุ้งลวดหน้าต่างจนได้รับความเสียหาย ระหว่างนั้นพนักงานร้านได้สังเกตเห็นผ่านช่องหน้าต่าง ฝ่ายลูกค้าที่ก่อนหน้าแต่งตัวชุดเที่ยว เสื้อโปโลสีน้ำเงิน กางเกงยีน กำลังเปลี่ยนเครื่องแต่งกายนุ่งห่มจีวรในชุดพระสงฆ์ ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเกลี้ยกล่อมให้เปิดประตูและเข้าควบคุมตัวในสภาพที่กำลังมึนเมาอย่างมาก พูดจานักเลงไม่มีความสำรวมแม้อยู่ในผ้าเหลือง

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวพระรูปนี้ไปสอบปากคำยัง สภ.สัตหีบ ทราบชื่อภายหลังคือ พระมหาสมภพ อายุ 42 ปี เป็นชาวจ.สุพรรณบุรี ศึกษาระดับเปรียญธรรม 4 ประโยค ไม่ชี้ชัดสังกัดวัดใด เบื้องต้นให้การปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่เคยไปนั่งดื่มกินภายในร้าน ยอมรับว่าดื่มเบียร์ภายในห้องพัก 2 ขวด แต่ด้วยหลักฐานคลิปวิดีโอที่ทางร้านถ่ายบันทึกไว้ จึงยอมกลับคำให้การรับสารภาพว่า ดื่มกินแล้วเบี้ยวจ่ายเงินจริง

นายสิทธิพร พัฒนารังคะ เจ้าของร้าน เล่าว่า พระรูปนี้ได้แต่งกายเหมือนลูกค้าทั่วไปที่เข้ามาเที่ยว ซึ่งมาสั่งเบียร์นั่งดื่มตั้งแต่ช่วงเย็นจนถึงร้านปิด 23.00 น. แต่เมื่อขอคิดเงินกลับไม่มีเงินจ่าย และขอกลับไปเอาเงินที่ห้องพัก เมื่อไปถึงก็ล็อกประตูห้องไม่ให้ใครเข้า ก่อนจะเปลี่ยนชุดเป็นสงฆ์ พร้อมกับลั่นปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้ไปกินที่ร้าน

ด้าน พ.ต.ท.ไพบูลย์ เผยว่า หลังเกิดเหตุฝ่ายเจ้าทุกข์ได้นำบิลค่าอาหารและเครื่องดื่มเบียร์ 2 ลัง รวมเป็นเงิน 3,025 บาท มอบเป็นหลักฐานให้ตำรวจดำเนินคดีในความผิดฐาน ฉ้อโกง พร้อมนิมนต์ พระครูปลัด วินัย ธีรญฺโญ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเทพประสาทเตาถ่าน มาทำการสึกให้พ้นขาดจากความเป็นสงฆ์ตั้งแต่บัดนี้