จัดเป็นอีกหนึ่งเพื่อนรักของนักแสดงรุ่นใหญ่ เอก-สรพงษ์ ชาตรี ที่มีความสนิทสนมกันมานานและใกล้ชิดกันมากๆสำหรับนักแสดงรุ่นใหญ่มากฝีมือ ฤทธิ์ ลือชา ที่รับรู้เรื่องอาการป่วยมะเร็งของสรพงษ์ตั้งแต่เมื่อ 2 ปีที่แล้ว แต่ไม่ได้บอกใครเพราะรู้ว่าเพื่อนไม่ชอบรบกวนใคร ล่าสุดฤทธิ์ ได้ให้สัมภาษณ์บางช่วงบางตอนผ่านรายการ “ทอล์คกับเธอ” ทาง “เดลินิวส์ออนไลน์” เกี่ยวกับเรื่องนี้ รวมถึงความประทับใจที่เคยร่วมงานกับศิลปินแห่งชาติผู้ล่วงลับ “ต้อย-เศรษฐา ศิระฉายา” ด้วย
ฤทธิ์ เผยว่า “เรื่องเอกก็ติดตามข่าวจากญาติเขา แล้วก็โซเชียลพวกนี้แหละ เขาก็ไม่ได้เป็นอะไรมากนะ ดูแล้วแหละ ทางญาติเขาบอกนะ ปัจจุบันเขาดีขึ้นนะ ญาติเขาบอกว่าลุกเดินแล้วก็มีเสลดที่ลำคอนิดหน่อย ที่บอกว่าเข้าไอซียูคือเขาไม่อยากให้ใครรบกวนเขา แล้วพวกที่วิจารณ์ว่าเป็นนั่นนี่ เขาไม่รู้จริงแล้วเขาไปพูดกันมากเกินไป พูดไปแล้วก็ทำให้สภาพจิตเขาเสียด้วย จริงๆเขาเป็นคนที่ไม่อยากให้ใครรบกวนเขา เขาเป็นคนดี เขาไม่อยากให้ใครมาทุกข์กับเขา เขาก็เก็บตัวแล้วก็รักษาตัวมาตลอด แล้วตอนนี้เขาก็ได้รับบุญรับอานิสงส์จากสมเด็จหลวงปู่โตที่เขาสร้างมา ตอนนี้ปรากฏผลออกมาแล้ว เขาได้รับพระมหากรุณาธิคุณในโครงการพระบรมราชานุเคราะห์ แล้วด้วยบุญบารมีที่เขาทำมาไว้ตลอด เชื่อว่าเขาคงจะหายในเร็วๆนี้ครับ ผมก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก เวลาไปละหมาดตามศาสนาอิสลามผมก็ได้แต่ขอพรให้เขา ขอพรให้เพื่อนรักผมหายป่วย เขาน่าจะดีขึ้นเร็วๆนี้นะคะ”
“เรื่องอาการป่วยของคุณเอก จริงๆผมทราบมาตั้งแต่สองปีที่แล้ว ตั้งแต่ที่มันมีเม็ดอะไรขึ้นที่ปอดเขา แล้วเขาก็ไปผ่าที่โรงพยาบาลรามาฯ เขาก็ออกมา แล้วก็ไม่มีอะไร ผ่านิดเดียวตรงสีข้าง แล้วก็คีบเอาเม็ดนี้ออกมาแล้ว เขาก็ไม่เป็นอะไรเลย เขาก็ไปเล่นละครเล่นอะไร ดูแลตัวเองมาตลอด แล้วก็มาหลังๆเขาก็อาจจะมีอาการขึ้นมาบ้าง เขาก็เก็บตัว รักษาตัวเขา ไอ้โรคแบบนี้มันประจำ เป็นกันเยอะมาก ถ้าดูแลร่างกายดีๆมันก็อยู่กับเราไปนาน มันก็ต้องมีบุญด้วยพระเจ้าก็จะช่วยดูแล”
ฤทธิ์ เล่าต่อว่า “สรพงษ์ก็น่าจะใกล้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว น่าจะเป็นแบบนั้น เพราะว่าเขารักษาเกี่ยวกับปอดกับเสลดมันคู่กันอยู่แล้วแหละพวกระบบหายใจ ถ้ารักษาตรงนี้หายอย่างอื่นเขาก็ไม่เป็นไร เขาก็กลับมาหาแฟนคลับเขาได้ แล้วก็สิ่งที่เขาห่วงที่สุดก็คือสถานที่หลวงปู่โตที่ทำไว้ เขาเป็นห่วงมาก ก็อยากจะให้เขามาอยู่ใกล้ๆหลวงปู่โต เขาจะได้คลายเครียดได้ เขาเห็นสิ่งที่เขารักเขาทำไว้ สภาพจิตอาจจะดีขึ้น ผมก็อยากให้เขาออกมาแล้วไปอยู่ใกล้หลวงปู่โตดีกว่า ถ้าไม่เป็นอะไรมากนะ และพอเขาแข็งแรงดีแล้ว ก็เดี๋ยวจะเข้าไปรำลึกความหลังให้เขามีความสุข เขาอยู่กับผมเขาก็มีความสุขนะ ตลอด 20 ปีมานี่ก็ไปด้วยกันตลอด ต่างประเทศ ไปดูรูปหล่อพระพุทธเจ้าองค์นอนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก็ไปดูที่อินเดียด้วยกัน แล้วก็การก่อสร้าง ไปดูไม้ดูอะไร ก็ไปกับเขาตลอด ผมเห็นเขาเป็นคนที่มีคุณภาพต่อสังคม ผมก็ไปช่วยเขา แม้แต่คนละศาสนาเราก็ไปช่วยกัน”
“คุณสรพงษ์ก่อนหน้านี้เขาแข็งแรงมาก ตี 4-5 ก็ลุกไปกวาดใบไม้กวาดอะไร ก็ไม่รู้มันเกิดขึ้นได้ยังไง โรคพวกนี้เนอะ มันอาจจะมาเตือนว่ามีความสุขมีความทุกข์มีอะไร แบบเวียนว่ายตายเกิด ก็มาเตือนกันว่าให้เราระลึกถึงว่าควรจะเอาเวลาที่เหลืออยู่ทำความดีกันไว้ ผมก็คิดแบบนั้น ผมก็ทำความดีมาตลอด ผมก็คิดว่าใบไม้มันย่อมหล่นได้ทั้งใบแก่ใบอ่อน เพราะฉะนั้นเราก็ไม่ประสาท ถามว่าเป็นมรสุมครั้งใหญ่เลยไหม ครั้งแรกไม่มาก ครั้งแรกนิดเดียว เปิดแผลนิดเดียวแล้วเขาก็เอาออกมา ที่รามาฯ แล้วเขาก็ดีมาตลอด ไม่มีอะไรเลย แต่ครั้งหลังเนี่ยผมไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไร รู้แต่เจ็บไข้ได้ป่วย เราก็เก็บไว้ ไม่ต้องไปบอกใครหรอก เขาก็มีหมออยู่แล้ว เขาเป็นศิลปินแห่งชาติ แล้วยิ่งได้รับราชานุเคราะห์อย่างนี้ก็เป็นบุญมากเลย สมกับที่เขาทำบุญไว้นะครับ เรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาตอนนี้น่าจะดีขึ้นเพราะได้อยู่ในความดูแลที่ดี แล้วก็ได้รับกำลังใจจากในหลวงเรานะครับ ซึ่งเป็นบุญมาอีกระลอกนึง ก็คงจะดีขึ้น กำลังใจดีขึ้นเลย เพราะสรพงษ์เขารักในหลวงมาก ทั้งศาสนาทั้งสถาบัน ตอนนี้กำลังใจก็ดีขึ้นมาเยอะแล้ว แล้วคาดว่าคงจะเจอกันเร็วๆนี้แหละนะครับ”
“ส่วนเรื่องสูญเสียคุณต้อย เศรษฐา ผมเคยร่วมงานกับเขานะ อาต้อยนี่เขาเก่งอะ เขาเป็นคนมีอัจฉริยะนะ น่าเสียดายเขาอะ เสียดายมากเลย ไม่รู้มันเป็นยังไงได้ เขาเป็นคนดี และเป็นคนที่มีประโยชน์ต่อสังคมมากเลยอะ ให้ทั้งเสียงเพลง ให้ทั้งหนัง ละคร ให้ทั้งเวที ประกาศข่าว เขาเป็นคนที่เก่งมาก ก็เลยเสียดาย ขอให้ไปสู่ชาติภพที่ดีแล้วกัน ให้เขาได้พบสิ่งดีๆ ในภพหน้าครับ”
ขอขอบคุณภาพประกอบจากเฟซบุ๊ก ฤทธิ์ ลือชา fc
