สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ว่า กระทรวงกลาโหมของรัสเซียประกาศกลับมาเดินหน้าปฏิบัติการทางทหาร ในเมืองสองแห่งของยูเครน คือเมืองมาริอูโปล ที่อยู่ทางตอนใต้ และเมืองโวลโนวากา ที่อยู่ทางตะวันออก เมื่อช่วงเย็นของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น เนื่องจาก “รัฐบาลยูเครนยังคงปล่อยให้กองกำลังชาตินิยมเคลื่อนไหว และไม่เต็มใจต่อเวลาหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรม”


รายงานของรัฐบาลมอสโก ระบุด้วยว่า ตลอดช่วงเวลา 5 ชั่งโมง ของการประกาศ “ระเบียงมนุษยธรรม” ให้กับชาวเมืองมาริอูโปล ซึ่งมีประชากรมากกว่า 400,000 คน และชาวเมืองโวลโนวากา ซึ่งมีประชากรประมาณ 21,400 คน ไม่มีชาวเมืองคนใดสามารถออกจากพื้นที่ได้ เนื่องจาก “กองกำลังชาตินิยม” กลับฉวยโอกาสเสริมกำลังให้กับฝ่ายของตัวเอง


ขณะที่รัฐบาลยูเครนกล่าวว่า การอพยพประชาชนออกจากเมืองทั้งสองแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เมืองมาริอูโปล ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ตามกำหนด เนื่องจากกองทัพรัสเซียยังคงปฏิบัติการทางทหาร


ทั้งนี้ การกำหนดเขตปลอดภัยชั่วคราว ที่เมืองมาริอูโปลและเมืองโวลโนวากา เป็นไปตามผลการเจรจารอบสอง ระหว่างคณะผู้แทนของรัสเซียกับยูเครน บนพื้นที่รอยต่อระหว่างเบลารุสกับโปแลนด์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยในพื้นที่อื่นนอกเหนือจากสองเมืองนี้ กองทัพรัสเซียจะยังคงปฏิบัติการต่อไป “ตามแผนการ”


อนึ่ง กองทัพรัสเซียปิดล้อมเมืองมาริอูโปลมานานหลายวันแล้ว หากยึดครองได้อย่างเบ็ดเสร็จ ยูเครนจะเสียเมืองยุทธศาสตร์ออกสู่ทะเลดำเป็นแห่งที่สอง ต่อจากเมืองเคียร์ซอน ซึ่งมีประชากรประมาณ 300,000 คน และมีความสำคัญในฐานะอู่ต่อเรือหลักของยูเครน.

เครดิตภาพ : REUTERS