เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงว่า ภาพรวมจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล กับใน 71 จังหวัด พบว่าในกรุงเทพฯ คิดเป็นอัตรา 23 เปอร์เซ็นต์ ปริมณฑล 22 เปอร์เซ็นต์ และใน 71 จังหวัด 55 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงจำนวนผู้ติดเชื้อที่มีมากขึ้นในต่างจังหวัด ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานว่ามีหลายจังหวัดพบการติดเชื้อที่เป็นผู้กลับจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล แล้วไปสัมผัสและกระจายเชื้อให้กับคนในครอบครัว ในชุมชน และเพื่อนฝูง ทำให้มีผู้ติดเชื้อสูงขึ้น อาทิ อุบลราชธานี ขอนแก่น อุตรดิตถ์ สระบุรี สระแก้ว ตาก สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ชัยภูมิ พังงา กระบี่ ปทุมธานี พังงา และสตูล ส่วน จ.ลำปาง ที่มีผู้ป่วยใหม่ 36 ราย ซึ่งมาจากโครงการรับผู้ป่วยกลับบ้าน ขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) รายงานว่า แม้ได้มีการประกาศใช้มาตรการเข้มข้นเรื่องการข้ามจังหวัดหรือการออกนอกพื้นที่ที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด แต่ยังพบว่ามีประชาชนที่ยังเดินทางข้ามพื้นที่เป็นจำนวนเกิน 100,000 คน

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวอีกว่า ส่วนการพบผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนนั้น ล่าสุดพบคลัสเตอร์ใหม่ 4 แห่ง ใน 2 จังหวัด ได้แก่ 1.จ.สมุทรสาคร 2 จุด คือ ที่โรงงานอาหารกระป๋อง 3 อ.เมือง พบ 20 ราย และโรงงานด้าย อ.กระทุ่มแบน พบ 126 ราย  2.จ.ระยอง 2 จุด คือ ที่แคมป์ก่อสร้าง อ.บ้านฉาง พบ 26 ราย และบริษัทผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ อ.ปลวกแดง พบ 37 ราย