เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ทีมข่าวเฉพาะกิจ “เดลินิวส์” ได้รับหนังสือคำสั่งสถานีตำรวจแห่งหนึ่ง ใน จ.นครศรีธรรมราช โดยใจความสำคัญของหนังสือราชการฉบับดังกล่าว เป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลงการมอบหมายหน้าที่ให้ข้าราชการตำรวจ จำนวน 4 นาย เป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรจำนวน 3 นาย และชั้นประทวน 1 นาย มีตำแหน่งเป็น รอง สว.สส. ส่วนอีก 2 นาย รอง สว.ป. ส่วนชั้นประทวนตำแหน่ง ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน โดยให้ นายตำรวจสัญญาบัตรทั้ง 3 นาย ไปปฏิบัติหน้าที่พนักงานวิทยุ และให้ชั้นประทวน กลับไปปฏิบัติหน้าที่เดิม ซึ่งคำสั่งดังกล่าว ลงนามตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย. ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนังสือฉบับดังกล่าวหัวหน้าสถานีใช้อำนาจการปกครองเปลี่ยนแปลงหน้าที่ข้าราชการในบังคับบัญชา โดยอ้างเหตุผล กรณีได้รับการประสานทางโทรศัพท์ว่า ชุดสืบสวนได้เรียกรับผลประโยชน์จากการจับกุมคดียาเสพติด

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีเหตุการณ์กลุ่มบุคคลที่ถูกคำสั่งให้เปลี่ยนแปลงการปฏิบัติหน้าที่มีรายชื่อในบันทึกตรวจยึดยาเสพจริง โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. ช่วงกลางเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยมีบัญชีของกลาง ยาบ้า 16,583 เม็ด, แว่นตาสีดำจำนวน 1 อัน, รองเท้าแตะ 1 คู่, อุปกรณ์การเสพทำด้วยขวดพลาสติกจำนวน 1 ชุด, รองเท้าผ้าใบสีแดง-ขาวจำนวน 1 คู่, เอกสารสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนจำนวน 1 ชุด, เอกสารสำเนาทะเบียนบ้านจำนวน 1 ชุด และรถยนต์ยี่ห้อ อีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ จำนวน 1 คัน เหตุเกิดที่บริเวณสวนปาล์มน้ำมันในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช

ทั้งนี้ ภายหลังเกิดเรื่องฉาวแพร่สะพัด มีการพูดถึงกันอย่างมาในแวดวงสีกากี และคาดว่ากลุ่มตำรวจดังกล่าว น่าจะเคยมีพฤติกรรมจับกุมคดียาเสพติด ก่อนรีดเงินผู้ต้องหาแลกการปล่อยตัวมาแล้ว ล่าสุด ผู้สื่อข่าวเฉพาะกิจ เตรียมตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวไปยัง ภ.จว.นครศรีธรรมราช และ บช.ภ.8 เพื่อนำเสนอข้อเท็จจริงต่อไป.