หญิงสาวชาวสิงคโปร์ ซึ่งระบุชื่อตัวเพียงว่า ‘แอมเจีย’ ได้โพสต์คลิปวิดีโอสั้นลงในพื้นที่บัญชีใช้งาน ‘ติ๊กต็อก’ ของเธอซึ่งใช้ชื่อว่า ‘nahtyourbby’ เมื่อวันที่ 17 พ.ค. โดยบรรยายว่าแม่ของเธอซึ่งแวะชมสินค้าที่ร้านสาขาของแบรนด์หรู ‘ดิออร์’ ต้องกลับมามือเปล่า เพราะพนักงานขายในร้านปล่อยให้เธอยืนรอเก้อ โดยไม่สนใจจะบริการ อีกทั้งยังปฏิเสธ ไม่ยอมหยิบสินค้าที่เธออยากดูมาให้
แอมเจีย เขียนว่า พนักงานหญิงคนดังกล่าวปล่อยให้แม่ของเธอยืนรอเพื่อรับบริการอยู่นาน 10 นาที และต่อมาก็เห็นพนักงานรายเดียวกันเข้าไปให้บริการลูกค้าอีกครอบครัวหนึ่ง ด้วยท่าทีที่แตกต่างจากตอนปฏิบัติต่อเธอโดยสิ้นเชิง
แอมเจีย สันนิษฐานว่าพนักงานขายรายนั้นไม่ยินดีบริการ เพราะคนเหล่านี้จะได้เปอร์เซ็นต์จากการขายสินค้า และคงเชื่อว่าแม่ของเธอดูเหมือนไม่ใช่คนที่มีฐานะดีพอจะซื้อสินค้าในร้าน โดยพิจารณาจากการแต่งกายของเธอในวันนั้น
แอมเจีย จึงพาแม่ของเธอกลับไปที่ร้านในวันรุ่งขึ้น ขณะที่แม่ของเธอปฏิเสธว่าไม่ต้องการกลับไปอีก แต่ แอมเจีย เชื่อว่าการไม่ยอมกลับไปที่ร้านไม่ใช่การรับมือปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างถูกต้อง โดยเธอย้ำว่า “คุณ (หมายถึงพนักงานขายหรือทางร้าน) จะดูถูกฉันก็ได้ แต่อย่าได้คิดจะมาดูถูกแม่ของฉัน”
แอมเจีย และแม่ของเธอกลับไปยังร้านดิออร์ ซึ่งดูจากในคลิปแล้ว สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นร้านสาขาในอิตาลี สองแม่ลูกซื้อกระเป๋าและสินค้าแฟชั่นอื่น ๆ กลับมาหลายชิ้น เธอยังเล่าถึงการบริการที่ยอดเยี่ยมและกล่าวแสดงความยินดีกับพนักงานขายชายที่ให้บริการพวกเธอในวันนั้น ซึ่งน่าจะได้ค่าคอมมิชชั่นจากสินค้าที่พวกเธอซื้อกลับไปเป็นจำนวนมาก
แอมเจีย กล่าวในคลิปว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เธอทำได้ทุกอย่างเพื่อให้แม่ของเธอมีความสุข
คลิปวิดีโอดังกล่าวมีผู้เข้าชมมากกว่า 8 ล้านครั้ง และมีผู้กดถูกใจมากกว่า 1.4 ล้านราย กระนั้น ก็มีผู้เข้ามาแสดงความเห็นในเชิงไม่สนับสนุนว่า ทำไมเจ้าของคลิปถึงเอาเงินไปให้คนที่ดูถูกตัวเอง ขณะที่มีผู้ใช้อีกหลายรายบอกเล่าว่า นี่เป็นเพียงกลยุทธ์อย่างหนึ่งในการขายของทางร้าน ซึ่งเริ่มจากการแสดงกิริยาดูถูกลูกค้า เพื่อให้คนเหล่านี้กลับมาอีกครั้งเพื่อ ‘พิสูจน์’ ว่าตนมีเงินมากพอที่จะซื้อสินค้าของทางร้าน
แหล่งข่าว : nextshark.com
เครดิตภาพ : tiktok/nahtyourbby
