จากเหตุเรือ “เรือหลวงสุโขทัย” อับปาง ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ชุดอาสากู้ภัยปะทิว สมาคมนักข่าว จ.ชุมพร ออกค้นหา พบกางเกงวอร์มแบบผ้าร่มสีกรมท่า แถบสีแดง และหมวกคลุมทรงถังสีดำ มีผ้าปิดกันแดด ถูกคลื่นซัดเข้าติดชายฝั่ง บริเวณหาดทุ่งซาง อ.ปะทิว จ.ชุมพร จึงเก็บรวบรวมเพื่อส่งให้ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์ ซึ่งตลอดทั้งคืน ชุดอาสากู้ภัยฯ ได้สับเปลี่ยนกำลังออกเดินเท้าตรวจค้นแนวชายฝั่ง แต่ยังไม่พบสิ่งอื่นใด ขณะเมื่อช่วงเช้า มีกลุ่มเพื่อนผู้กำกับ พ.ต.อ.นิรันทร์ กันจู ผกก.สภ.มาบอำมฤต จ.ชุมพร นำเรือเจ็ตสกี 20 ลำ ร่วมค้นหาผู้สูญหาย โดยได้รับการสนับสนุนน้ำมัน อาหาร ให้กับเจ้าหน้าที่ทั้งหน่วยงานภาครัฐและอาสาสมัคร ตลอดภารกิจ จาก น.ส.ชิโนรส ไมตรีจิตร นักธุรกิจในพื้นที่ใน อ.ปะทิว
ส่วนพื้นที่หมู่ 13 ต.บางน้ำจืด อ.หลังสวน จ.ชุมพร ชาวประมงชายฝั่ง และชาวบ้าน แจ้งว่า พบแพยางชูชีพ ลอยมาติดชายฝั่ง จึงประสานไปยัง หน่วยกู้ชีพกู้ภัยสายชลหลังสวน นำอาสาสมัคร หน่วยกู้ชีพทางทะเล ออกไปตรวจสอบ พบแพยางชูชีพ ขนาดใหญ่กำลังลอยอยู่ใกล้ชายฝั่ง จึงนำเข้ามาบริเวณชายฝั่ง หมู่ 13 และแจ้งเจ้าหน้าที่ทางราชการตรวจสอบ ขณะที่ น.ส.ราตรี จันทรัตน์ ประมง อ.ละแม จ.ชุมพร รับแจ้งจากชาวประมงพื้นบ้าน ของ อ.ละแม พบแพยางชูชีพในทะเล ใกล้ชายฝั่ง อ.ละแม จึงประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกตรวจสอบเป็นการเร่งด่วน
สำหรับ จ.ชุมพร เป็นพื้นที่เขตติดต่อกับจุดเรือรบหลวงสุโขทัย อับปาง และถือเป็นทิศทางที่กระแสลมและคลื่นไหลซัดเข้าหาฝั่ง คาดว่าผู้สูญหายอาจจะลอยเข้าฝั่งที่พื้นที่ จ.ชุมพร หลายหน่วยงานจึงระดมกำลังตั้งศูนย์อำนวยการเฝ้าติดตามสถานการณ์และออกค้นหา โดยมีกองการบินทหารเรือ พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการ V DL กรมสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ ตั้งศูนย์ปฏิบัติการ ค้นหาผู้สูญหาย จากกรณีเหตุเรือหลวงสุโขทัย ตั้งจุดประจำที่ลานหน้าเทศบาลตำบลปากน้ำชุมพร พร้อมกับใช้โดรนหรืออากาศยานไร้คนขับ ออกบินสำรวจตามจุดเป้าหมายในท้องทะเลและริมชายหาดที่เป็นเส้นทางน้ำและกระแสลมพัดผ่านมาจากพื้นที่จุดเรือรบหลวงสุโขทัยอับปาง จนกระทั่งเย็นก็ยังไม่พบสิ่งปกติแต่อย่างใด
ขณะที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร นำโดย นายสุวรรณเนาว์ แสนสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ได้ระดมเจ้าหน้าที่พร้อมเรือตรวจการณ์ ออกค้นหาในทะเลตั้งแต่เขตติดต่อระหว่างอำเภอปะทิว จ.ชุมพร กับอำเภอบางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ มาจนถึงเขตอำเภอเมืองชุมพร อำเภอสวี อำเภอทุ่งตะโก อำเภอหลังสวน และอำเภอละแม ซึ่งเป็นเขตติดต่อกับ จ.สุราษฎร์ธานี แต่ก็ไม่พบเป้าหมายตามที่ค้นหาแต่อย่างใด
ส่วนที่สะพานปลา เขตเทศบาลตำบลสะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร เป็นอีกจุดศูนย์อำนวยการเฝ้าติดตามสถานการณ์และออกค้นหา ผู้สูญหายจากเรือรบหลวงสุโขทัย มีชุดกำลังของชุดปฏิบัติการ V DL กรมสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ และหน่วยกู้ภัยทางน้ำ ทางบก สายชลมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี และภาคีเครือข่าย โดยมีชุดปฏิบัติการ V DL กรมสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ ใช้คลื่นสัญญาณตรวจสอบและชี้เป้าตลอดทั้งวัน ยังพบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด
ขณะที่ นายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ ผวจ.ชุมพร ได้สั่งการให้ ระดมหน่วยที่เกี่ยวข้องสนับสนุนและตั้งทีมค้นหาผู้สูญหาย จากกรณีเหตุเรือหลวงสุโขทัย ซึ่งคาดการณ์ว่าสภาพคลื่นลมอาจทำให้แพยางชูชีพ และผู้สูญหายมาทางน่านน้ำจังหวัดชุมพร พร้อมกับเดินทางมาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและมอบแนวทางปฏิบัติแก่เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ที่มาร่วมปฏิบัติการค้นหาครั้งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปฏิบัติการค้นหากำลังพล เรือหลวงสุโขทัย ยังคงดำเนินการต่อเนื่อง โดยจุดที่พบแพยางชูชีพ 1 แพ ห่างจากจุดเรืออับปาง 80 กม.หรือ 48 ไมค์ทะเล ซึ่งเป็นบริเวณตรางแผนค้นหาของกองทัพเรือ พื้นที่ค้นหา บางสะพานน้อย ปะทิว อ.เมืองชุมพร เบื้องต้นยังไม่มีรายงานพบกำลังพล หรือผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเดินทางไปตรวจสอบ ทั้งนี้ กองทัพบก ได้มีการข่าวถึงประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง ต่อเนื่องชายฝั่งทะเล หากพบเห็นสิ่งผิดปกติ ที่คาดว่าเกิดจากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง ขอให้แจ้งได้ที่ 08-4002-3554 หรือ 0-3818-2435 เพื่อเจ้าหน้าที่ได้เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบค้นหาอย่างเร่งด่วนต่อไป.
