เมื่อวันที่ 4 ส.ค. ที่รัฐสภา คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) พร้อมด้วยนายโภคิน พลกุล ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ และแกนนำพรรค เดินทางมายื่นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) บำนาญแห่งชาติและสวัสดิการผู้สูงอายุ พ.ศ. … ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ประธานสภาฯ บรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมต่อไป
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า หลักการของพรรคพรรคไทยสร้างไทย เราคิดว่าประชาธิปไตยต้องเป็นประชาธิปไตยเพื่อประชาชน คนไทยทุกคนควรจะได้รับการดูแลอย่างมีศักดิ์ศรี ตั้งแต่เกิดจนแก่ ซึ่งในนโยบายของพรรคจะมีเรื่องการดูแลทารกในครรภ์ จนถึงช่วงวัยเรียน วัยทำงาน และวัยเกษียณ เมื่อเราทำร่างกฎหมายฉบับนี้เสร็จก็ได้มายื่นต่อสภาฯ เพื่อให้สภาฯ เชิญชวนประชาชนมีส่วนร่วมสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว หลังจากที่พรรคเดินสายพบประชาชนได้รับการตอบรับในเรื่องนี้เป็นอย่างดี
โดยร่างกฎหมายฉบับนี้มีเป้าหมายให้ทุกอย่างเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เพื่อดูแลผู้สูงวัยที่มีรายได้ที่ไม่เพียงพอต่อการยังชีพ เพราะตอนนี้ประเทศไทยได้เดินสู่สังคมผู้สูงวัยเต็มขั้นแล้ว ส่วนใหญ่มีฐานะยากจน เมื่อรายได้ไม่ดี สุขภาพไม่ดีด้วย เราจะปล่อยให้ไทยเป็นประเทศที่มีแต่ผู้สูงอายุที่มีความจน สุขภาพไม่ดี จะทำให้เป็นปัญหาภาระมากมาย เช่น การรักษาพยาบาลของรัฐ ไม่เกิดการสร้างงาน และสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวด้วยว่า เรามีความจำเป็นต้องดูแลผู้สูงวัย โดยการมุ่งเน้นส่งเสริมให้เกิดการสร้างสุขภาพ มีบำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาท เพื่อให้ผู้สูงวัยมีรายได้เพียงพอต่อการยังชีพที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของตัวเองได้ มีสุขภาพดี ลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลของประเทศและครอบครัว อีกทั้งยังเป็นการช่วยลดภาระของลูกหลานที่อยู่ในช่วงวัยทำงาน เชื่อว่าจะเกิดผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจมหาศาล เพราะเศรษฐกิจฐานรากสำคัญที่สุด ซึ่งร่างกฎหมายดังกล่าวจะมาช่วนกระตุ้นเศรษฐกิจ และช่วยลดความเหลื่อมล้ำได้
ส่วนการตั้งเป้าหมายกวาดเก้าอี้ ส.ส.ของพรรค นั้น คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า การที่พรรคการเมืองเกิดขึ้นใหม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี และขอยืนยันว่าจุดยืนของพรรคจะยืนอยู่ฝ่ายประชาธิปไตย เราคิดว่าไม่ว่าการเลือกตั้งจะใช้กติกาไหน เราพร้อมจะเดินหน้าตามกติกานั้น และส่งผู้สมัครเต็มทุกพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนได้พิจารณา ขอย้ำว่าสนับสนุนประชาธิปไตยอย่างเต็มขั้น แน่นอนว่าการเป็นพรรคการเมืองเราก็อยากได้ที่นั่ง ส.ส.ในสภาฯ ให้ได้มากที่สุด แต่ในกรณีเช่นนี้ เราไม่สามารถบอกได้ว่าจะได้ ส.ส.จำนวนทั้งหมดกี่คน เพราะประชาชนคือผู้ตัดสินใจ และเราจะแข่งกับตัวเอง อย่างไรก็ตาม ในเดือนหน้าจะมีความชัดเจนเรื่องการตั้งคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค เนื่องจากขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
ทางด้าน นายโภคิน กล่าวถึงกรณีมีปัญหาเรื่องระบบการเลือกตั้งว่า พรรคการเมืองที่มีอำนาจมุ่งหวังจะสร้างระบบการเลือกตั้งที่ตนเองได้ประโยชน์ แต่ไม่เป็นธรรมและไม่สะท้อนเสียงประชาชน แต่พรรคของเราไม่กังวล เพราะจะใช้สูตรไหนก็ได้ แต่ขออย่างเดียวว่าให้คำนึงถึงประชาชนด้วย ไม่ใช่คำนึงแค่ชนะการเลือกตั้ง โดยใช้เงินใช้อำนาจ หากทำเช่นนี้บ้านเมืองจะไปไหนไม่ได้ เรามุ่งหวังว่าประเทศจะเดินหน้าไปด้วยกันได้ ทั้งนี้การที่มีพรรคการเมืองใหม่ๆ เกิดขึ้นในช่วงนี้ เป็นเรื่องที่ไม่เสียหาย แต่ขออย่างเดียว ขอให้ทำประโยชน์เพื่อประชาชน
