จัดเป็นอีกหนึ่งวงดนตรีที่หลายคนชื่นชอบในแนวเพลงและเนื้อหาของเพลงของพวกเขาอย่างมากสำหรับวง The Yers ที่ประกอบด้วยสมาชิกได้แก่ โบ๊ท, ต่อ, อู๋ และ บูม ที่อยู่ในวงการมาได้อย่างยาวนาน และผลิตงานดีๆออกมาให้แฟนๆฟังเสมอ ล่าสุดเขากลับมากับอัลบั้มเพลงที่พวกเขาตั้งใจทำกันอย่างมาก โดยทยอยปล่อยเพลงฮิตออกมาให้แฟนๆฟังอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด yimyim มีโอกาสได้นัดสัมภาษณ์กับพวกเขา เลยไม่พลาดนำบทสัมภาษณ์ที่แสดงให้เห็นเลยว่าพวกเขาคือคนดนตรีและรักในงานที่ทำอย่างมากมาฝากกัน ตามมาอ่านกันจ้า

ทักทายแฟนๆสักหน่อย?

The Yers : “สวัสดีครับ The yers ครับผม”
โบ๊ท : “โบ๊ทครับ”
ต่อ : “ต่อครับ”
อู๋ : “อู๋ครับ”
บูม : “บูมครับ”

กลับมาทั้งที มีข่าวดีเนอะ ซิงเกิ้ลและอัลบั้มออกใหม่ด้วย ถามชื่ออัลบั้มก่อนเลยแล้วทำไมถึงต้องชื่อนี้?
ต่อ : “ชื่ออัลบั้ม PRAY ครับ แปลว่า ภาวนา ครับ”
อู๋ : “อัลบั้มนี้คิดเนื้อไม่ออกเลยภาวนาขอพรให้ได้เนื้อเพลงมา (ยิ้ม) และอันนี้ก็เป็นธีมของเราด้วย”

ตอนนี้ออกมา 5 ซิงเกิ้ลแล้วใช่ไหม?
อู๋ : “ใช่ครับ เดี๋ยวจะมีอีก 4 ซิงเกิ้ลครับ อัลบั้มมี 10 เพลง แต่ละเพลงไม่เชื่อมโยงเลยครับ มันเป็นไดอารี่แต่ละโมเมนต์นั้น ในช่วงการทำเพลง ไม่ได้นำมาร้อยเรียงกันเป็นคอนเซปต์ เราภาวนาขอพรก็จริง แต่เราไม่ได้ตั้งใจให้เหมือนอัลบั้มพี่ฮิวโก้ ที่เป็นอีพีที่เป็นเรื่องราวเดียวกัน”

ในอัลบั้มแต่ละท่านมีส่วนร่วมยังไงบ้าง?
โบ๊ท : “หลักๆ ก็จะเป็น อู๋ก็ขึ้นเพลงมาตามปกติของวงอยู่แล้ว แต่อัลบั้มนี้จะเป็นการร่วมกันเขียนเนื้อ ขลุกในบ้านด้วยกันช่วงโควิด กักตัว มีเวลาในการริเริ่มสร้างสรรค์อะไรใหม่ ๆ ใช้เวลาร่วมกันเต็มที่ ประสบการณ์จาก 3 อัลบั้มที่ผ่านมา อยากเล่นอะไร ถ่ายทอดอะไร อยากทำอะไรเต็มที่”
ต่อ : “เหมือนเราใช้เวลาร่วมกันเยอะ เราเลยได้ทำอะไรใหม่ ๆ คือ นั่งแต่งเพลงด้วยกัน นั่ง 4 คน ใครมีไอเดียอะไรพูดออกมา คำไหนออกมาแล้วไปต่อยอดมาเป็นเพลง เลยได้สิ่งที่ไม่เคยเกิดในวงนี้ออกมาครับ”
บูม : “เขาตอบกันไปหมดแล้ว 2 คน (หัวเราะ) เรามีส่วนร่วมในการทำเพลงมากขึ้นครับ ใส่ไอเดียในความเป็นตัวเองมากขึ้น”
โบ๊ท : “ด้วยความที่บ้านอู๋เขาเป็นห้องอัดด้วยครับ ทรยศสตูดิโอ เราเลยมีเวลากับช่วงบันทึกเสียงเยอะมาก คอนเซปต์หลักอัลบั้มนี้คือ ใช้ดนตรีเสียงอะนาล็อกหมดเลย”
อู๋ : “ใครที่ชื่นชอบเสียงของอัลบั้มนี้นะครับ ยินดีต้อนรับครับ ทรยศสตูดิโอ อยู่แถวแฟชั่นไอส์แลนด์ครับ”

จริงๆ The Yers ทำไมปล่อยเป็นอัลบั้มกัน เพราะสมัยนี้หาคนปล่อยอัลบั้มยากมากๆแล้ว?
อู๋ : “ผมคิดว่าการทำอัลบั้มเป็นสิ่งที่ควรทำมาโดยตลอด เพราะว่า วงดนตรีที่เราชอบทุกวงทั่วโลก ทำอัลบั้มหมด ไม่ว่าจะเป็นนอกกระแส หรือ ในกระแส ผมก็ค่อนข้างสงสัย ทำไมถึงมีไอเดียเกิดขึ้นในประเทศนี้ว่าทำไมเขาไม่ทำอัลบั้มกันแล้ว เขาทำซิงเกิ้ลกัน ก็เลยเอ๊ะ มันเป็นสิ่งที่ดีมากเลยนะ เป็นการบันทึกความทรงจำของวงดนตรีได้ดี แฟนเพลงจะรับรู้ได้ว่า ในแต่ละการเติบโตของศิลปินเป็นยังไง ผมว่าสร้างมูลค่าแก่ทั้งคนฟังและคนทำด้วย เราสามารถ Remind ย้อนกลับไปได้ว่า ช่วงอายุนี้ ทำอัลบั้มนี้เราคิดอะไรอยู่ ถ้าทำเป็นเพลง ๆ เดี๋ยวก็ลืมอะ เพลงนี้เราออกปีไหนวะ เราเชื่อว่าการทำอัลบั้มไม่ใช่เรื่อง Out trend เลย มันเป็นสิ่งที่ทั่วโลกเขาทำกันอยู่ แต่ว่าในประเทศนี้อาจจะไม่ค่อยมีใครสนใจในการทำอัลบั้มแล้ว”

ด้วยความที่ทำซิงเกิ้ลอาจจะมีความเสี่ยง รับมือกับมันยังไง?
อู๋ : “ผมโชคดีมาก ที่ทางค่าย genie records ยอม จริง ๆ เป็นสิ่งที่เราเดินเข้าไปในค่ายนี้แล้วคิดเลยว่า ผมทำอัลบั้มนะครับ ตลอดไป มันมีช่วงที่ผ่านมา หลังคอนเสิร์ตใหญ่ ปี 2019 โดนเค้นว่า ต้องมี 2 ซิงเกิ้ลนะ เขาเตรียมงบเตรียมไรไว้แล้ว ผมก็คิดไม่ออก ตันครับ ผมก็หนีไปทำอัลบั้มเดี่ยว พอมันมามันก็มา เราไม่อยากเป็นวงที่ปล่อยซิงเกิ้ลเรื่อย ๆ เราอยากแบบว่ามีอารมณ์แล้วทำดีกว่า มันจับต้องได้ ตอนนี้เรารู้สึกอย่างนี้แล้วอยากจะร้อยเรียงเป็นอัลบั้มออกมา มันดูเป็นชิ้นเป็นอันมาก ๆ แต่ผมไม่ได้บอกนะว่าคนทำซิงเกิ้ลผิด ผมกลับนับถือด้วย ว่าเก่งกันมากเลย ทำเพลงนี้เสร็จ เข้าห้องอัด ทำเพลงต่อ ออกไปคอนเสิร์ต โปรโมต เราอยากทำเป็นซีซั่นการทำงานไปเลย ซีซั่นนี้เราทำอัลบั้มนี้ ถ้ามีคอนเสิร์ตเข้ามา เราก็รับบ้าง ไม่รับบ้าง เราอยากให้เป็นขั้นตอน ทำอัลบั้มเสร็จแล้วปล่อย ผมทำไม่ได้ ไม่สามารถออกไปเล่นคอนเสิร์ตหรือโปรโมตแล้วกลับมาแต่งเพลงต่อ อาจจะเป็นความเคยชินของผมด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะทำซิงเกิ้ลหรืออัลบั้มแล้วแต่ความถนัดครับ ไม่มีผิดถูก”

สิ่งที่ยากที่สุดในอัลบั้มนี้ของแต่ละท่านมีอะไรบ้าง?
โบ๊ท : “น่าจะเป็นเรื่องการช่วยกันทำเองทุกอย่างทุกขั้นตอนครับ ไม่มองว่าเป็นเรื่องยากครับ มองเป็นเรื่องสนุก ได้ลองทุกอย่างเอง”
บูม : “ขั้นตอนการอัดละเอียดครับ เราอัดเป็นอะนาล็อก ต้องอัดให้ได้เสียงที่เราต้องการจริงๆ จูนกลองใหม่ เปลี่ยนแอมป์กีตาร์ไปเรื่อยครับ”
ต่อ : “ผมมองว่ามันไม่ใช่ความยากครับ มันท้าทายตอนทำว่าเราจะได้เสียงที่เราคิดหรือชอบจริงหรือเปล่า ช่วงเวลาว่างเยอะมาก เราจะทำเสียงที่เราชอบมากที่สุดได้จริงมั้ย พอมันได้ออกมาก็สนุกครับ”

เพลงที่ปล่อยไปแล้ว ฟีตแบ็กจากแฟน ๆ เป็นยังไงบ้าง?
โบ๊ท : “แฟนจริง ๆ ที่เขารอคอยก็ชื่นชอบกันมาก ก็ดีใจครับ ก็มีช่วงที่เราปล่อยแล้วมันหายไป โดย Timing ของโควิด ออกไปเล่นไม่ได้ ทำให้อัลบั้มนี้ปล่อยค่อนข้างเลทจากไทม์มิ่งที่เราวางไว้ครับ”
ต่อ : “ผมว่าหลายๆ เพลง แฟนเพลงรู้ครับว่าเราตั้งใจทำ ยิ่งนักดนตรีจะรับรู้ได้เลยว่าเสียงทุกเสียงกลั่นกรองจากความตั้งใจจริงๆ ครับ”

มีถึง 10 เพลง แต่ละท่านชอบเพลงไหนที่สุดกัน?
อู๋ : “โบ๊ท ชอบปริศนาครับ เพราะว่าดนตรีเข้มข้น ต่อชอบตำรับยา เพราะว่ามันสดชื่น ซาวน์ใหม่ของ The Yers ส่วนบูมชอบปริศนาเหมือนกัน ส่วนผมชอบทุกเพลงครับ เพราะผมคลุกคลีกับมันตั้งแต่เริ่มครับ” (หัวเราะ)

อยากให้ทั้ง 4 คน แนะนำ 1 เพลงในอัลบั้มนี้ให้กับแฟนๆสักหน่อย?
อู๋ : “มันยากนะ เราไม่รู้จะแนะนำเพลงไหนเลย ถ้าสำหรับแฟนเพลงที่ชอบอัลบั้มแรกก็จะชอบหมาป่าเดียวดาย ส่วนคนที่ไม่เคยฟังThe Yers เลย ต้องไปฟัง มีเพียงคนที่รักกันเท่านั้น ถ้าคนที่ชอบ The Yers มาโดยตลอด ต้องฟัง ปริศนา ตำรับยา ตอบยากครับ”
โบ๊ท : “และตอนนี้ก็มีเพลง แสดงความเสียใจ ที่เพิ่งปล่อยเอ็มวีออกมาครับ”
ต่อ : “ผมว่าในอัลบั้มน่าจะมีเพลงที่เรารู้สึกกับมันอยู่แล้วครับ แล้วแต่บุคคล”
บูม : “จริง ๆ ก็อยากให้ฟังทั้งอัลบั้มครับ มันจะได้ครบทุกรสชาติ”

เอาจริงๆวงเราอยู่วงการมานานมากๆ มีวิธีอยู่วงการนี้ได้อย่างไร?
โบ๊ท : “ความหวังและความอึดของพวกเราครับ”
ต่อ : “ผมว่าในการที่กลับมาทำอัลบั้มทุกครั้ง เหมือนได้อยู่กับเพื่อน สุมหัวทำอะไรกับเพื่อนแล้วมันสนุกครับ”
โบ๊ท : “จริงๆ รู้อยู่แล้วว่ามีคนรอครับ โดยเฉพาะแฟนเพลงที่เหนียวแน่นกับเรามาตลอด ผมรู้ว่าพวกเขาอยู่ตรงนั้น อยากมีอัลบั้มเพื่อที่จะไปเจอพวกเขาตลอด ถ้าเป็นไปได้ครับ”
บูม : “ความชอบด้วยครับ ความรักในดนตรี เรารู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่เราออกไปเล่น เป็นความสุขที่หาจากที่อื่นไม่ได้”

หลาย ๆ คนต้องปรับตัวในช่วงโควิด หลายๆคนท้อค่ะ พี่ผ่านจุดนั้นมาได้ยังไง?

โบ๊ท : “ยังต่อสู้อยู่ครับ แต่ก็ปรับตัวเรื่อย ๆ พยายามแข็งแรงจากภายในให้ได้ เรารู้ว่ามีใครอยู่ข้างเราบ้าง”
ต่อ : “อยู่กับมันอย่างมีความสุขครับ ต้องคิดดีเหมือนพอมันถึงจุดต่ำสุดของชีวิต เราจะลุกขึ้นมาเองครับ”

เห็นหลายๆ คนตัดสินใจเปลี่ยนอาชีพไปเลย เคยมีความคิดบ้างมั้ย?
อู๋ : “จริงๆ แล้ว The Yers ทำงานเสริมกันมาตลอดครับ หลายคนอาจมองว่ามีชื่อเสียงเงินทอง เปล่าเลย ที่ผ่านมา The Yers เป็นวงระดับกลาง ๆ เราต่อสู้กับชีวิตนักดนตรีมาโดยตลอด ทำยังไงให้เราอยู่ได้ เพราะฉะนั้นไลฟ์สไตล์ของเรา เราดิ้นรนมาตลอด เพื่อที่จะได้เล่นดนตรีที่เราชอบ 13 ปีที่ผ่านมา เราอยู่ได้ด้วยอย่างอื่นด้วย ทำอย่างอื่นบ้าง เพื่อให้เราอิ่มท้องและมาสร้างสรรค์ผลงาน”
ต่อ : “มันมีสิ่งหนึ่งที่หล่อเลี้ยงวงได้คือพวก Merchandise วง เสื้อยืด กระเป๋าวง แฟนเพลงรักเรามาก ๆ เลยนะ ส่วนนี้ทำให้เราอยู่ได้ มันสามารถช่วยเราให้ขึ้นมาได้อีกครั้ง เพราะเราไม่ได้เล่นเยอะ”
อู๋ : “วงเราโชคดีมากที่มีแฟนเพลงซัพพอร์ตเราในทุก ๆ ด้านครับ”

ความคาดหวังต่ออัลบั้มนี้เป็นอย่างไร?
อู๋ : “ไม่มีครับ นอกจากเรามีความสุขในการทำ สิ่งที่คาดหวังคือ เมื่อไหร่จะปล่อยวะ แค่นี้เลย เราจะได้บอกเขาว่าช่วงเวลาที่ผ่านมา 2 ปีที่แล้ว เราทำอะไรกันอยู่ เราคิดอะไร อยากนำเสนออะไร ตอนนี้อัลบั้มปล่อยไปแล้วมัน โห ประสบความสำเร็จมากเลย แค่ให้ได้ปล่อยออกไปแล้วคนฟัง ผมไปดูแล้วมีคนฟังเพลงเราเยอะขนาดนี้ ดีใจมาก แค่นี้เลยครับ ไม่ได้คาดหวังว่าจะกลับมายิ่งใหญ่ มันแบบพอแล้วครับ”

เรียกว่าได้เข้าถึงมุมมองและการทำงาน รวมถึงทัศนคติดีๆของหนุ่มๆ The Yers กันอย่างมากมายทีเดียวและเชื่อว่าในอนาคตพวกเขาจะผลิตผลงานดีๆออกมาให้แฟนๆได้ฟังกันต่อเนื่องนั่นเอง ยังไงอย่าลืมซัพพอร์ตทั้งเพลงและอัลบั้มของพวกเขานะคะ


คอลัมน์ “1 Day With ซุปตาร์”

โดย “yimyim”