จากกรณีเมื่อวันที่ 27 ส.ค. นายเกียรติคุณ ต้นยาง (ทนายโป้ง) ประธานชมรมทนายจิตอาสาได้พานายกิตติธัช (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี พ่อน้องพอร์ช (สงวนชื่อสกุลจริง) เด็กชายวัย 1 ขวบ 8 เดือน ลงบันทึกประจำวันแจ้งความดำเนินคดีกับพี่เลี้ยงที่ทำให้น้องพอร์ชเสียชีวิต โดยแจ้งพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด ให้หาตัวคนทำร้ายลูกชายมาดำเนินคดี ส่วนศพ น้องพอร์ช ตั้งสวดพระอภิธรรมอยู่วัดบางพูดนอก เบื้องต้นพ่อแม่คาใจ ขอนำร่าง น้องพอร์ช ชันสูตรพลิกศพอีกครั้งที่ รพ.รามาธิบดี ก่อนประสานแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มาชันสูตรพลิกศพร่วมกับร้อยเวร สภ.ปากเกร็ด เพื่อนำศพน้องพอร์ชไปผ่าพิสูจน์ที่ รพ.รามาธิบดี เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 28 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามความคืบหน้าที่วัดบางพูดนอก ถนนสุขาประชาสรรค์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พบเจ้าหน้าที่ได้นำศพน้องพอร์ช ที่ไปผ่าพิสูจน์แล้วที่ รพ.รามาธิบดี ก่อนนำร่างกลับมาสวดพระอภิธรรมศพตามประเพณีที่วัดบางพูดนอก ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของพ่อแม่และญาติ โดยผลตรวจออกมาอย่างไม่เป็นทางการพบว่าน้องพอร์ชเสียชีวิตเพราะถูกทำร้ายร่างกายที่บริเวณแผ่นหลัง 2 แห่ง มีรอยฟกช้ำจากการถูกกระแทกที่ทำให้เด็กเสียชีวิต

นายกิตติธัช และ น.ส.ปิยธิดา พ่อแม่น้องพอร์ช กล่าวว่า ผลชันสูตรจากทาง รพ. ออกมาแล้วว่า น้องถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตที่บริเวณหลังประมาณ 1-2 ที ทำให้เสียชีวิตทันที ทางหมอแจ้งว่าเป็นรอยใหม่ที่พึ่งโดนมาอย่างแรง และคาดว่าน้องเสียชีวิตมานานแล้วก่อนที่จะถึง รพ. แต่ที่ทำการปั๊มหัวใจน้องเพราะไม่อยากให้ทางเราเสียใจไปมากกว่านี้ ในเมื่อผลพิสูจน์ออกมาขนาดนี้ ตนยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเพราะเป็นลูกชายคนเดียว ถ้ามาไกล่เกลี่ยก็จะไม่ยอม ส่วนเรื่องที่เขาบอกว่าน้องชอบเอาหัวโขกกำแพงคือไม่ใช่เรื่องจริงเพราะน้องเป็นเด็กร่าเริง ขี้เล่น และเป็นเด็กที่กลัวความเจ็บมาก หลังจากที่ผลชันสูตรออกมาตนรู้สึกแย่และเสียใจหนักกว่าเดิมที่รู้ว่าลูกโดนทำร้ายจนตาย ตอนนี้รู้สึกผิดที่ไว้ใจผิดคน ทำให้ลูกต้องจากเราไป อยากฝากถึงทางพี่เลี้ยงให้พูดความจริงเพราะรู้อยู่แก่ใจ และอยากรู้ความจริงว่าเขาใช้อะไรทำร้ายลูกเรา

พ่อแม่ใจสลาย! จ้างสาวเลี้ยงลูกชายวัยขวบเศษ จู่ๆดับปริศนา-ร่างฟกช้ำ

ด้านทนายโป้ง กล่าวว่า เบื้องต้นสอบถามข้อเท็จจริงจากคุณพ่อคุณแม่น้อง ตั้งแต่ไปชันสูตรที่ รพ. มาเมื่อวาน ทราบว่าทางคุณหมอได้แจ้งทางวาจากับทางพ่อแม่น้องว่าถูกทำร้ายร่างกาย พบรอยฟกช้ำบริเวณด้านหลังอย่างรุนแรง ซึ่งทางคุณหมอก็ฝากให้พ่อแม่น้องไปแจ้งความดำเนินคดี แต่ทางเราไปแจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว แต่จะเข้าไปให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวนที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อดำเนินคดีกับพี่เลี้ยงที่กระทำกับน้องพอร์ชครั้งนี้

“น้องจะต้องไม่ตายฟรี ถ้าทางคู่กรณีมีจิตสำนึกต้องการที่จะไถ่บาปและต้องการจะรับผิดชอบเพื่อให้น้องไปสู่สุคติ ก็ลองให้เข้ามาไกล่เกลี่ยกันหนักจะได้เป็นเบา ถ้ายอมรับผิดจริง ทั้งนี้ขอกราบขอบคุณทาง รพ.รามาธิบดี ที่เข้าช่วยเหลือพ่อแม่น้องในการช่วยชันสูตรศพหาสาเหตุ ให้ทางครอบครัวได้รับความเป็นธรรม” ทนายโป้ง กล่าว