สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ว่า กระทรวงการต่างประเทศจีนรายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ใช้เวลานานประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งนับเป็นการพูดคุยอย่างเป็นทางการครั้งแรกของผู้นำทั้งสองประเทศ ตั้งแต่การสู้รบระหว่างรัสเซียกับยุเครนปะทุ เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565


สีกล่าวในตอนหนึ่ง ว่าจีนให้ความสำคัญกับการส่งเสริมกระบวนการเจรจาสันติภาพ และผลักดันให้เกิดการหยุดยิงโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ รัฐบาลปักกิ่งในฐานะหนึ่งในสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) จะไม่ใช่ประเทศที่คอยสุมไฟให้เกิดความขัดแย้ง หรืออย่างน้อยที่สุด คือการมุ่งแสวงหาผลประโยชน์จากสถานการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่


ขณะที่เซเลนสกีกล่าวถึงการสนทนาทางโทรศัพท์กับผู้นำจีนในครั้งนี้ “สำคัญและมีความหมายอย่างมาก” และเป็นสัญญาณของโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์กับประเทศ ซึ่งถือเป็นพันธมิตรผู้ทรงอิทธิพลที่สุดของรัสเซีย พร้อมทั้งประกาศแต่งตั้งเอกอัครราชทูตยูเครนประจำจีนคนใหม่

นายอวี้ จวิน รองผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยูเรเชีย กระทรวงการต่างประเทศจีน (คนกลาง) แถลงเกี่ยวกับการสนทนาทางโทรศัพท์ ระหว่างประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน กับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน

นอกจากนี้ ผู้นำยูเครนกล่าวด้วยว่า รัฐบาลปักกิ่งเตรียมส่งคณะผู้แทนพิเศษเดินทางมายังยูเครน เพื่อหารืออย่างเป็นทางการ “ร่วมกับทุกฝ่ายที่ต้องการสันติภาพ” และเน้นย้ำว่า สันติภาพไม่อาจเกิดขึ้นได้ หากต้องมีการสูญเสียดินแดน และการฟื้นฟูอาณาเขตของยูเครน ต้องเป็นไปตามการแบ่งพื้นที่เมื่อปี 2534


ด้าน น.ส.มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า รัฐบาลมอสโกมีความเข้าใจและยอมรับ ความพร้อมของจีนในการเป็นผู้ขับเคลื่อนกระบวนการสันติภาพ อนึ่ง สีและประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย สถาปนาการเป็น “หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ไร้ขีดจำกัด” เพียงไม่กี่สัปดาห์ ก่อนรัฐบาลมอสโกเกิดฉากปฏิบัติการทางทหารในยูเครน


ส่วนสหรัฐ “แสดงความยินดี” ที่การสนทนาทางโทรศัพท์ครั้งนี้เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม รัฐบาลวอชิงตันมองว่า “ยังเร็วเกินไป” ที่จะสรุปว่า การพูดคุยครั้งนี้จะสามารถก่อให้เกิดสันติภาพระยะยาวในยูเครน.

เครดิตภาพ : REUTERS