เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังคงระบาดต่อเนื่อง สำหรับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ออกอุบายโทรศัพท์หลอกเหยื่อโอนเงิน แม้จะเริ่มมีคนจับทางได้ แต่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็ยังขยันหามุกใหม่มาหลอกเหยื่อ ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากตกหลุมพรางโดนหลอกกันถ้วนหน้า ล่าสุด ผู้ใช้เฟซบุ๊ก pattima komolbawonkul หรือต้นอ้อ พิธีกรสาวชื่อดังโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าตนเป็นเหยื่อของขบวนการนี้ โดยระบุว่า เหตุการณ์เกิดเมื่อเช้านี้ อ้อตกเป็นเหยื่อของแก็งมิจฉาชีพที่อ้างตัวเองว่าเป็นตำรวจ สภ.เมืองระนอง เสียเงินไป 1,000,000 บาท ซึ่งเป็นเงินเก็บจากการทำงานที่ได้มาด้วยความยากลำบาก อยากเล่าสิ่งนี้เพื่อเป็นอุทาหรณ์ และ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการคนแบบนี้ออกไปจากสังคมไทยให้ได้

มิจฉาชีพแจ้งว่าอ้อเป็นผู้ต้องหาคดีฟอกเงินระดับประเทศ เป็นคดีอาญา อ้อได้ยินคำนี้ตกใจมาก เพราะเราไม่เคยทำสิ่งผิดกฎหมายใดๆเลย อ้อบอกกับมิจฉาชีพ(ปลอมเป็นตำรวจ) ไปว่า อ้อไม่เคยทำเรื่องทุจริต มิจฉาชีพ(ปลอมเป็นตำรวจ) บอกว่า มีชื่ออ้อเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาที่ต้องดำเนินคดี อ้อพูดไปว่าอ้อจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาคือตำรวจจริง เขาก็ขู่อ้อว่าจะเพิ่มคดีข้อหาหมิ่นประมาทเจ้าหน้าที่ เขาทำทุกอย่างให้เรากลัว โจร(ปลอมเป็นตำรวจ)บอกว่า ถ้าอ้อไม่ได้ทำ และอยากยืนยันความบริสุทธิ์ ต้องให้ความร่วมมือให้ข้อมูลและปากคำทุกอย่าง ห้ามปิดบัง ต้องเป็นข้อมูลจริง หากตรวจพบว่าโกหก บอกไม่ครบ จะโดนคดีให้ความเท็จ โจร(ปลอมเป็นตำรวจ) จะทำการบันทึกเสียงอ้อในการให้ปากคำ หากอ้อไม่ให้ความร่วมมือจะดำเนินคดีและออกหมายจับ ข้อหาขัดขืนคำสั่งตำรวจ ตอนนั้นอ้อกังวล และกลัว โจรขู่เราสารพัดเพื่อให้เราหลงเชื่อ อ้อเลยขอเขาดูบัตรตำรวจก่อนให้ปากคำ โจรเลยแอดไลน์อ้อและส่งรูปบัตรตำรวจมาให้อ้อทางไลน์ และเขาก็พูดหมายเลขคดี รายละเอียดคดีเราถึงกลุ่มคนที่แอบอ้างชื่อถึงเรา ส่งรูปผู้ต้องหามาให้เราดู โจรพูดทุกทางให้อ้อหลงเชื่อ

หลังจากนั้นเขาสอบสวนอ้อต่อ ประมาณครึ่งชม. มิจฉาชีพ(ปลอมตำรวจ)บอกต้องยึดเงินอ้อไว้เพื่อเป็นของกลางก่อนเพื่อตรวจสอบกับ ป.ป.ง. ก่อนว่าอ้อเป็นผู้บริสุทธิ์จริง เขาให้อ้อโอนเงินไปให้เขาทั้งหมดจำนวนเงินกว่าล้านบาท หมดบัญชีอ้อเลยคะ ตอนนั้นเราคิดว่าเพื่อแสดงความบริสุทธิ์และให้ความร่วมมือกับตำรวจ เราจึงปฎิบัติตามคำสั่งโจร(ปลอมเป็นตำรวจ) หลังจากเขาวางหูไป อ้อเข้าไปดูในไลน์เขา เขาลบข้อมูลที่ส่งมาให้อ้อออกหมด อ้อถึงได้ทราบว่าเราโดนหลอกแล้ว อ้อเก็บฐานไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว และบันทึกเสียงเขาเอาไว้ส่งมอบให้ตำรวจเพื่อดำเนินคดีต่อไปแล้ว

การที่เรารู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพื่อที่จะแสดงความบริสุทธิ์ใจกับตำรวจ (โจรปลอมเป็นตำรวจ) เราอาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้ มิจฉาชีพมีเล่ห์เหลี่ยมเยอะมาก เพื่อทำให้เราหลงเชื่อทุกทาง ทำให้เราสูญเสียเงินมากมาย เหตุการณ์นี้อาจเกิดขึ้นกับเรา หรือ อาจเกิดกับคนใกล้ตัวเรา หรือคนในครอบครัวเรา อ้อเขียนไว้เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้ตัวเองและคนอื่นๆ ที่อาจโดนหลอกแบบนี้ #ให้สังคมลงโทษคนแบบนี้ #โดยเฉพาะเหตุการณ์แบบนี้ #บทเรียนครั้งยิ่งใหญ่”

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว ได้รับการยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง โดยช่วงสายวันนี้ได้มีเบอร์โทรศัพท์หมายเลข 082-5612805 โทรมาหาโดยปลายสายระบุว่า เป็นเจ้าหน้าที่กรมศุลการกร อ้างว่า ตนมีการส่งพัสดุไปต่างประเทศและพัสดุนั้น เมื่อตรวจสอบพบว่าเป็นพัสดุผิดกฎหมาย อีกทั้งปลายสายยังอ้างอีกว่าตนมีคดีเกี่ยวกับยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย ในพื้นที่ สภ.เมืองระนอง ซึ่งขณะนั้นตนรู้สึกตกใจและทำอะไรไม่ถูกก็ได้แต่ฟังและให้ความร่วมมือ จากนั้นปลายสายก็ได้โอนสายไปยังอีกบุคคลหนึ่ง อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองระนอง ระบุชื่อ พ.ต.อ.พรพรหม จักษุรักษ์ ตำแหน่งผู้กำกับสถานี และพยายามขอแอดไลน์เพื่อเข้าสู่กระบวนการซักถาม

ต่อมาตนจึงทำตามขั้นตอนแอดไลน์ตามที่ปลายสายระบุ ก่อนที่ปลายสายจะสอบถามข้อมูลส่วนตัว พร้อมขอให้ตนบอกบัญชีธนาคารเพื่อทำการตรวจสอบเงินในบัญชีธนาคารที่ปลายสายระบุว่าบัญชีของตนมีความเกี่ยวข้องกับบัญชีที่ผิดกฎหมาย โดยตนได้โอนไปยังบัญชีแห่งหนึ่ง เป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท จากนั้นปลายสายได้วางสายและบล็อกไลน์ตน อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุตน คิดว่าตนนั้นถูกหลอกแล้ว จึงเข้าแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ โดยระหว่างที่รอแจ้งความก็พบว่ามีผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการนี้รอแจ้งความกับตำรวจถึง 4 คนด้วยกัน อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับตนระหว่างว่าจะเป็นอุทาหรณ์สอนใจให้กับพี่น้อง ประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอยากจะขอให้ทางตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี เพื่อที่จะไม่ไปก่อความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนอีกต่อไป