เกาะติดงบ 67 สกัดรัฐบาลตีเช็กเปล่า
ผ่านฉลุยแล้วสำหรับร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท ในวาระแรก ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการแปรญัตติต่อไป
ผ่านฉลุยแล้วสำหรับร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท ในวาระแรก ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการแปรญัตติต่อไป
หนึ่งในภารกิจยิ่งใหญ่ของรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยประกาศเร่งขับเคลื่อน คือการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ โดยเริ่มต้นด้วยการทำประชามติสอบถามประชาชน แต่การผลักดันสิ่งเหล่านี้ทำให้ต้องเผชิญกับแรงกดดันและความคิดเห็นที่แตกต่างหลากหลายจากฝ่ายต่างๆ ที่สำคัญอาจส่งผลกับความเป็นไปของรัฐบาลได้เช่นกัน
เชื่อแน่ว่าปี 2567 กระแสการเมืองร้อนแรงแน่นอน เพราะมีกฎหมายสำคัญๆ ที่ยังมีความเห็นแตกต่างกันที่ต้องผลักดันกันอยู่หลายฉบับ ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม
ในช่วงใกล้ๆ ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ก็เป็นธรรมเนียมที่ต้องมีการจับยามสามตาทางโหราศาสตร์เพื่อเป็นแนวทางในการใช้ชีวิตที่ไม่ประมาท โดยเฉพาะเหตุบ้านการเมืองสำคัญๆ “คอลัมน์ตรวจการบ้าน” จึงถือโอกาสช่วงนี้ สนทนากับ อาจารย์ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ มาผ่าดวงเมืองทำนายทายทักเหตุการณ์ช่วงปี 2567 จะเป็นอย่างไรบ้าง ประเทศมีอะไรที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
ใกล้สิ้นสุดปี 2566 จึงต้องมาจับตาดวงเมืองในปี 2567 เปลี่ยนจาก“ปีกระต่าย” เข้าสู่ “ปีมะโรง” สถานการการเมืองไทยไทยจะเป็นอย่างไร มีเหตุการณ์อะไรที่น่ากังวลหรือไม่
ยังคงเป็นประเด็นร้อนต่อเนื่องสำหรับการเดินหน้าเสนอ “ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม” ของพรรคก้าวไกล ที่ถูกตั้งคำถามอย่างหนักว่าเป็นประโยชน์ต่อโดยรวม หรือ ทำเพื่อใคร และมีใครได้ประโยชน์มากที่สุด ล่าสุด “คอลัมน์ตรวจการบ้าน” จึงถือโอกาสนี้มาสนทนากับ รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย รองศาสตราจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มีความเห็นในเรื่องนี้อย่างไร
เรียกว่าเป็นตำบลกระสุนตกสำหรับพรรคก้าวไกลในช่วงที่ผ่านมา จากเหตุ สส.หื่น จนทำให้บทบาทการทำงานในหน้าที่ของฝ่ายค้านสะดุดไปบ้าง เพราะถูกขั้วตรงข้ามจ้องตรวจสอบ
จากการเป็นพรรคการเมืองที่เคยยิ่งใหญ่ แต่ด้วยสารพัดปัญหาเรื้อรังภายในพรรค บวกกับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งใหญ่ ทำให้“พรรคประชาธิปัตย์” กลายเป็นพรรคที่เสียงแผ่วเบาแทบจะเงียบกริบทั้งในและนอกสภา แถมยังขาดผู้นำคนใหม่มาทำหน้าที่กอบกู้ฟื้นฟูบรรดาบาดแผลที่แสนสาหัส
“เป็นความเสี่ยงที่นายเศรษฐา ถ้าทำเรื่องนี้ไม่สำเร็จ การสนับสนุน ความนิยมทางการเมืองและต่างๆ จะลดลง แล้วอาจมีอะไรตามมาในทางการเมืองมากระทบนายเศรษฐาโดยตรง”
จากคำสั่งของ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้ไปศึกษาความเหมาะสมและแนวทาง ในการปรับค่าแรงขั้นต่ำ และการปรับอัตราเงินเดือนสำหรับกลุ่มข้าราชการพลเรือนและเจ้าหน้าที่ แม้ทิศทางจะยังไม่สะเด็ดน้ำแต่สังคมตั้งคำถามด้วยความตื่นตัว ตื่นตระหนกกันไปแล้วว่า เหมาะสมกับสถานการณ์หรือไม่
สดๆ ร้อนๆ กับการปรับทัพพลิกโฉม รีฟอร์มพรรคเพื่อไทยใหม่ ด้วยการเปลี่ยนกรรมการบริหาร(กก.บห.)พรรคเพื่อไทย ชู“อุ๊งอิ๊ง” น.ส. แพทองธาร ชินวัตร ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค พท. คนใหม่
เรียกว่าเป็นฤดูมรสุมของ “พรรคก้าวไกล” หลังเกิดประเด็น สส.และสมาชิกพรรคถูกร้องเรียนปมคุกคามทางเพศถี่ยิบ ในระหว่างที่กำลังเริ่มต้นบทบาทพรรคแกนนำฝ่ายค้านในสภาที่ต้องตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างเข้มข้น แต่ต้องมาสะดุดเอากับเรื่องฉาวปนคาว และทำให้เสียรังวัดพรรคอันดับหนึ่งที่ชนะเลือกตั้งมาไม่ใช่น้อย
สงครามในอิสราเอลทำให้ต้องกลับมาพิจารณาใหม่เรื่องความปลอดภัยของแรงงานที่ส่งไปทำงานต่างประเทศมากขึ้น ต้องดูว่านายจ้างหรือรัฐบาลมีการเตรียมความพร้อมในการดูแลความปลอดภัยแรงงานไทยมากแค่ไหน
จุดกระแสเดือดประเด็นร้อนขึ้นมาทันที เมื่อพรรคก้าวไกล ยื่นร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แก่บุคคล ซึ่งได้กระทำความผิด อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งให้ ระบุว่า ทำเพื่อประชาชน แต่ถูกมองว่าไม่แตกต่างจากครั้งหนึ่งที่พรรคเพื่อไทยดัน พ.รบ.นิรโทษกรรมสุดซอย
เริ่มเดินเครื่องกันแล้วสำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 60 หลังจากที่พรรคเพื่อไทยได้นำไปเป็นหนึ่งประเด็นในการหาเสียง หากได้มาเป็นรัฐบาลจะต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทันที และเมื่อได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จึงเดินหน้าทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ซึ่งขณะนี้ก็เป็นรูปเป็นร่างได้ตั้งคณะกรรมการ ศึกษาแนวทางการทำประชามติและแนวทางร่างรัฐธรรมนูญ