เมื่อวันที่ 14 พ.ค. พ.อ.อุทัย นิลเนตร ผบ.ฉก.กรม ทพ.21 ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวในพื้นที่ว่า จะมีการลักลอบขนยาเสพติดจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน (สปป.ลาว) เข้ามายังประเทศไทยตามแนวชายแดนแม่น้ำโขง ที่บริเวณแหล่งท่องเที่ยวท่าแก่งจันทร์ บ้านหาดคัมภีร์ ต.หาดคัมภีร์ อ.ปากชม จ.เลย จึงได้สั่งการให้ พ.ท.อัครเดช อัครสาร ผบ.ร้อย.ทพ.2103 ฉก.ทพ.21 พร้อมชุดกำลังทหารพรานจำนวนหนึ่ง เข้าซุ่มเฝ้าเพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหวบริเวณพื้นที่เป้าหมาย จนกระทั่งชุดซุ่มเฝ้าตรวจได้ตรวจพบ รถกระบะยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน ยง 5670 ชลบุรี จอดอยู่ข้างถนน

และมีบุคคลเป็นชายประมาณ 6 คน กำลังขนสิ่งของบางอย่างขึ้นรถ ชุดซุ่มเฝ้าตรวจจึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้น ชายที่กำลังขนของได้ตกใจทิ้งกระสอบ และวิ่งขึ้นรถยนต์ขับหลบหนีหายไปในความมืด เจ้าหน้าที่ทหารพรานได้ตรวจพบของกลางอย่างระมัดระวัง เพราะความมืดการมองเห็นลำบาก อาจจะมีการปะทะจากขบวนการยาเสพติดได้ เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้ว จึงได้ทำการออกตรวจยึดของกลางพบเป็นกัญชาแห้งอัดแท่ง 24 กระสอบ รวม 960 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท และรถยนต์กระบะยี่ห้อ อีซูชุ สีขาว ทะเบียน ยง 5670 ชลบุรี

เจ้าหน้าที่ทหารพรานจึงได้นำของกลางทั้งหมดส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ปากชม จ.เลย เพื่อดำเนินคดีในข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 5 กัญชา โดยผิดกฎหมายต่อไป และจะได้ทำการสอบสวนขยายผลหาตัวเจ้าของรถยนต์ที่แท้จริงต่อไป

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมรายหนึ่ง กล่าวว่า ในช่วงนี้จะมีขบวนการค้ายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน (สปป.ลาว) จะลักลอบเข้ามาถี่มากขึ้น จะพบว่าจังหวัดใกล้เคียงที่มีพื้นที่ติดกับแม่น้ำโขง พบว่ามีการจับยาบ้าและกัญชาจำนวนมาก มูลค่าหลายล้านบาท และเป็นช่วงหน้าแล้งทำให้มีการขนยาเสพติดข้ามตรงไหนก็ได้ ยิ่งในพื้นที่ของจังหวัดเลย มี 6 อำเภอ ที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ช่วงนี้แม่น้ำเหือง และแม่น้ำโขง ระยะทางกว่า 100 กิโลเมตร มีบางช่วงที่แม่น้ำตื้นเขินคับแคบ จึงทำให้ขบวนการค้ายาเสพติดจะเอาข้ามมาตรงไหนก็ได้ ทางเจ้าหน้าที่ทหารพรานก็ต้องเพิ่มความถี่ในการออกตรวจพื้นที่มากขึ้น เพื่อสกัดขบวนการค้ายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านที่มีแนวโน้มจะทะลักเข้ามาอีกจำนวนมาก.