กรณีเพจเฟซบุ๊ก “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 3” นำเอาเรื่องสุดเศร้าของ ด.ญ. อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.3/8 โรงเรียนสตรีพัทลุง ที่ปัญหาครอบครัวรุมเร้าให้ต้องดิ้นรน หาหนทางเรียนหนังสือต่อ แต่สุดท้ายกลับถูกครูในโรงเรียนพูดจากล่าวหา ทำนองว่าไม่มีทางเรียนต่อได้ ทั้งตัวมีเพียงเงิน 200 บาท สุดท้ายเด็กสาวตรอมใจเครียดหนัก ผูกคอตัวเองเสียชีวิตในบ้านพัก จนมีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ตามที่ได้เสอนข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ที่โรงเรียนสตรีพัทลุง อ.เมือง จ.พัทลุง เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีคณะผู้บริหารโรงเรียน คุณครูทุกคน แต่งชุดดำมาไว้อาลัยให้กับ ด.ญ. อายุ 14 ปี

สุดเศร้า ด.ญ.14 พยายามสู้ชีวิตให้ได้เรียนต่อแต่ไม่สมหวัง ตัดสินใจผูกคอ

นอกจากนั้นครู และนักเรียน ชั้น ม.1 ม.2 และ ม.4 รวมถึงคุณครูที่เกษียณอายุราชการกว่า 30 คน ได้ร่วมทำกิจกรรมยืนไว้อาลัยหลังเข้าแถวเคารพธงชาติ โดยได้ร่วมกันยืนไว้อาลัยให้ ด.ญ.14 ปี เป็นเวลา 1 นาที ซึ่งก่อนยืนไว้อาลัย ผู้นำนักเรียนได้กล่าวว่า “น้องเป็นที่รักของเพื่อนๆนักเรียนทุกคน และจะอยู่ในใจของพวกเราทุกคนต่อไป” ขณะที่คุณครูที่เกษียณอายุราชการต่างให้กำลังใจสวมกอด ผอ.โรงเรียนและคุณครูทุกคน ในการทำหน้าที่สอนเด็กนักเรียนต่อไป แม้ว่าขณะนี้เกิดกระแสข่าวที่เป็นทางลบกับโรงเรียนมาก

นางมาลี แก้วละเอียด ผอ.โรงเรียนสตรีพัทลุง กล่าวว่า ขณะนี้ได้การแต่งตั้งคณะกรรมการของโรงเรียนสตรีพัทลุง ขึ้นมา 1 ชุด เพื่อสอบข้อเท็จจริง 5 คน ซึ่งเริ่มการสอบข้อเท็จจริงระหว่างเด็กนักเรียนกับหัวหน้ากลุ่มงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเกิดความเข้าใจที่ผิดพลาด จนนำไปสู่การเสียชีวิต ในขณะที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพัทลุง ก็มีคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด ซึ่งทั้งคณะฯ จะต้องเร่งสอบข้อเท็จจริงให้เสร็จรวดเร็วเพื่อเชื่อมต่อกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. ให้เสร็จภายใน 7 วัน ตามที่เลขาธิการ สพฐ. กำหนดไว้

นางมาลี กล่าวอีกว่า ยังเชื่อมั่นว่าคุณครูทุกคนมีความรักความเจตนากับนักเรียนทุกราย แต่ด้วยการสื่อสารและบุคลิกภาพนั้นอาจจะบกพร่องไปบ้าง ซึ่งนักเรียนอาจจะไม่พร้อมรับคำแนะนำในขณะนั้น ซึ่งทั้งนักเรียนและคุณครูเป็นบุคคลที่มีคุณค่าของโรงเรียน ทางโรงเรียนขอฝากทางสังคมว่าเหตุการณ์เหล่านี้มันเป็นอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด ทางโรงเรียนและคณะครูทุกคนเสียใจ บางอย่างที่มีข่าวซ้อนขึ้นมาก็ไม่เป็นข้อเท็จจริงทั้งหมด ซึ่งขอให้สังคมให้ความเป็นธรรมคุณครูและโรงเรียนด้วย