เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ตำรวจ สภ.กันทรอม ได้รับแจ้งมีเหตุคนเสียชีวิตภายในบ่อเกรอะหลังส้วมของบ้านเลขที่ 30 หมู่ 12 ต.โพธิ์กระสัง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างจิตต์ฯ จุดอำเภอขุนหาญ และแพทย์เวร รพ.ขุนหาญ

ที่เกิดเหตุ เป็นบ้านของ นางมี โพธิสาร อายุ 82 ปี นั่งอยู่ที่บ้านตามลำพัง ตรวจสอบบริเวณส้วมที่ตั้งอยู่หลังบ้านภายในบ่อเกรอะ พบร่างชายวัยกลางคน ทราบชื่อต่อมาคือ นายสมิง วัจนา อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 หมู่ 13 ต.โพธิ์กระสัง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ จมอยู่ในบ่อเกรอะลักษณะยืนก้มหน้าเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ สภาพศพสวมเสื้อยืดแขนยาวสีดำ นุ่งกางเกงขายาวสีดำ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงรีบนำร่างผู้ตายขึ้นมาจากบ่อเพื่อตรวจพิสูจน์ จากการชันสูตรเบื้องต้นพบว่ากะโหลกซ้ายยุบ มีรอยช้ำที่คอ ลิ้นจุกปาก

ชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า เมื่อช่วงคืนของวันที่ 3 เม.ย. 67 ชาวบ้านได้กลิ่นเหม็นเน่าเหมือนซากศพลอยโชยเข้ามาในบ้าน จึงพากันออกตามหาต้นตอของกลิ่น แต่ก็ไม่พบ พอรุ่งเช้าของวันที่ 4 เม.ย. กลิ่นเริ่มแรงขึ้นกว่าเดิม ชาวบ้านจึงเดินออกตามหาต้นตอของกลิ่นอีกครั้ง จนมาพบว่ามีหมวกต้องสงสัยวางอยู่บนฝาท่อของส้วมบ้านหลังที่เกิดเหตุ ชาวบ้านจึงไปตามผู้ใหญ่บ้านมาตรวจสอบ และช่วยกันงัดฝาท่อออกมา ถึงกับผงะพบว่ามีคนจมอยู่ในบ่อเกรอะเสียชีวิต และเมื่อดูดีๆ แล้ว จึงรู้ว่าเป็นร่างของนายสมิง จากนั้นจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบดังกล่าว

จากการสอบถาม นางบุศกร สุดสุงข์ อายุ 56 ปี แม่ของผู้ตายเล่าว่า ลูกชายตนทำงานรับจ้างเลี้ยงวัวให้กับญาติในหมู่บ้าน เมื่อช่วงวันที่ 1 เม.ย. 67 ลูกชายตนได้โทรศัพท์มาหาตน 5 ครั้ง แต่ตนไม่ได้รับสาย เนื่องจากตนติดงานอยู่ เมื่อเสร็จธุระแล้ว จึงได้โทรฯกลับไป แต่ก็ไม่สามารถติดต่อลูกชายได้ และหายเงียบไปเลย กระทั่งมารู้อีกทีคือเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ว่าลูกชายตนเสียชีวิตในบ่อเกรอะ รู้สึกตกใจและเสียใจมาก เพราะมีลูกแค่ 2 คน ลูกชายคนที่เสียชีวิตเป็นลูกคนโต ส่วนเรื่องการเสียชีวิต ยอมรับว่ายังคาใจ เพราะเป็นไปไม่ได้ที่ลูกจะเข้าไปอยู่ในบ่อเกรอะ แล้วเอาฝาซีเมนต์บ่อปิดขังตนเองไว้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะแม้แต่เงินค่าทำศพลูก ก็ยังไม่มี ไม่รู้จะไปเอาความผิดกับใครได้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ส่งศพไปผ่าพิสูจน์ที่ รพ.ขุนหาญ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอย่างละเอียดต่อไป.