บรรยากาศหุ้นไทยวันที่ 23 พ.ค.65 เคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน จากอานิสงส์ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ชะลอตัวลง และยังได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น ส่วนปัจจัยในประเทศยังได้แรงบวกจาก ศบค. ได้คลายมาตรการต่างๆ ในเดือน มิ.ย. ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,635.28 จุด เพิ่มขึ้น 12.33 จุด หรือ 0.76% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 58,704.94 ล้านบาท ส่วนตลาดเอ็มเอไอปิดที่ 627.92 จุด เพิ่มขึ้น 2.26 จุด หรือ 0.36% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4,882.47 ล้านบาท

รายงานข่าวจาก บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์นี้คาดว่ามีแนวรับที่ 1,580-1,600 จุด และมีแนวต้านอยู่ที่ 1,635-1,650 จุด โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขส่งออกเดือน เม.ย. ของไทย สถานการณ์โควิด-19 ทิศทางเงินทุนต่างชาติ รวมถึงสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ ที่สำคัญได้แก่ ดัชนีการผลิตเดือน พ.ค. ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล บันทึกการประชุมเฟด และจีดีพีไตรมาส 1 ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ดัชนีการผลิตเดือน พ.ค. ของญี่ปุ่นและยูโรโซน รวมถึงกำไรบริษัทภาคอุตสาหกรรมเดือน เม.ย. ของจีน

หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

1.ปตท. ปิดที่ 37.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท

2.ธ.กสิกรไทย ปิดที่ 145.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

3.บีดีเอ็มเอส ปิดที่ 27.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

4.เอโอที ปิดที่ 69.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

5.เอสซีบี ปิดที่ 115.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท