เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันสนั่นโลกออนไลน์ ภายหลังแฟนเพจเฟซบุ๊กดัง ที่มักจะออกมาโพสต์ขอยุติการทำเพจอยู่บ่อยครั้ง จนทำให้มีผู้ใจดีมักจะโอนบริจาคเงินกันเป็นจำนวนมาก ทำให้เพจต่างๆ ออกมาแฉยับจนตกเป็นประเด็นสังคม พร้อมทั้งวอนให้ตรวจสอบบัญชีและสถานที่

นอกจากนี้ชาวเน็ตต่างก็พากันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องอย่างร้อนแรง และมีการกล่าวอ้างถึงเพจดังอย่าง เพจมูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand Foundation – WDT ว่ามีส่วนเกี่ยวในเรื่องนี้ พร้อมทั้งบอกว่า แอดมินเพจเป็นคนเดียวกัน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เพจมูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand Foundation – WDT ได้ออกมาชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุข้อความว่า “จากการที่มีเรื่องราวเหตุการณ์ดราม่ากับเพจๆหนึ่ง และมีการลากพ่วง พาดพิงถึง WDT ด้วยโดยเพจอวตารที่ไม่มีตัวตนนั้น มูลนิธิขอใช้โอกาสนี้ ชี้แจงให้ประชาชนคนรักสัตว์ทราบว่า WDT ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเพจ หรือกลุ่ม หรือองค์กรอื่น แต่อย่างใด

จากข้อความอันเป็นเท็จที่กล่าวหาว่าใช้แอดมินร่วมกันกับเพจอื่นนั้นไม่เป็นความจริง และมูลนิธิจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างแน่นอนกับเพจและบุคคลที่กล่าวหา และที่แชร์ไป ตามกฎหมาย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฉบับใหม่ ที่ประกาศใช้เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา

อนึ่ง เราทราบมาว่า เพจอวตารดังกล่าวโดยมีบุคคลผู้กล่าวหา กำลังถูกดำเนินคดีจากเพจคู่กรณี จึงน่าจะเป็นความพยายามกลั่นแกล้งกันให้เสียหายและเสียชื่อเสียง โดยมิได้คำนึงถึงสัตว์เจ็บป่วยทั้งหลายที่รอการรักษาดูแลอยู่ในปัจจุบัน

ในขณะเดียวกันทาง WDT อยากให้สังคมได้ตรวจสอบเพจนี้เช่นกันว่า เพจนี้มีเบื้องหลังมาอย่างไรเป็นใครมาจากไหน ทำไมถึงได้ตั้งชื่อเพจใหม่ตลอดเวลา แต่ใช้แอดมินเพจคนเดียวกัน มีสไตล์การเขียนเหมือนกันและคนที่เป็นแอดมินเพจ ก็กำลังมีกรณีฟ้องร้องกับเพจหมามะเร็งและอีกหลายองค์กรที่กำลังแจ้งความดำเนินคดีอยู่ในขณะนี้

ในระยะหลายปีที่ผ่านมาสำหรับคนช่วยเหลือสัตว์ ต่างรู้ดีว่าที่มาที่ไปของเพจนี้มีใครอยู่เบื้องหลัง และทำไปเพื่อวัตถุประสงค์อะไร บางครั้งเพจนี้ได้โจมตี บุคคล องค์กร หน่วยงานต่างๆ ที่ตนไปขอความช่วยเหลือแต่ไม่ได้รับความสนใจและหลายครั้งเขียนโจมตีแล้วลบโพสต์ในเวลาอันสั้น

WDT มีความเชื่อมั่นและศรัทธาว่า ประชาชนย่อมยึดถือสวัสดิภาพสัตว์เป็นหลัก และสามารถใช้สติไตร่ตรอง กลั่นกรองข่าวสารต่างๆได้ โดยพิจารณาจากผลงานของมูลนิธิที่ดำเนินการต่อสู้เพื่อช่วยเหลือสัตว์ตลอดสิบปีที่ผ่านมา

ถ้าเราทำงานโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสัตว์โดยไม่หวังผลในการทำความดีนั้น การเอาเรื่องจริงมาเปิดโปง มาตีแผ่ต่อสังคมให้ได้รับทราบ เราจะต้องกลัวอะไร

ในทางตรงกันข้ามการใช้เพจอวตารในการให้ร้ายผู้อื่นที่ไม่มีแม้ส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตามย่อมส่งผลกระทบต่อการช่วยเหลือสัตว์ในทุกมิติ และไม่ได้ส่งผลดีใดๆต่อการช่วยเหลือสัตว์ ไม่ว่าทั้งสัตว์จรจัดและสัตว์ที่ถูกทารุณกรรมทั้งในปัจจุบันและในอนาคต

มูลนิธิวอชด็อกไทยแลนด์ ร้องขอให้กระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ช่วยตรวจสอบเพจอวตารเหล่านี้ด้วย เพราะเป็นเพจที่สร้างขึ้นมาบนพื้นฐานของความเกลียดชังและนำมาแต่ความแตกแยกและความเข้าใจผิดเข้าสู่สังคม การตรวจสอบเป็นเรื่องที่ดี ถ้าคนตรวจสอบทำไปโดยปราศจากอตคิและความริษยา และไม่มีผลประโยชน์ใดๆ มาเกี่ยวข้อง

รายงานบัญชี Statement ของมูลนิธิในทุกๆ เดือน จะต้องทำบัญชีรายรับรายจ่ายส่งสำนักงานบัญชี และสำนักงานบัญชีต้องส่งรายงานให้ผู้ตรวจสอบ และ สรรพากร เพื่อตรวจรายรับและรายจ่ายทั้งหมด ยิ่งในการเป็นมูลนิธิ ที่ทุกบาททุกสตางค์ต้องมาจากการบริจาคของประชาชนเพื่อใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือสัตว์ของมูลนิธิ เรื่องรายจ่าย จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่ต้องมีใบเสร็จแสดงรายจ่ายทุกกรณีการใช้จ่าย

จึงเป็นโอกาสที่มูลนิธิขอขอบคุณประชาชนผู้บริจาคและผู้สนับสนุนให้มูลนิธิได้ทำงานตามวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือสัตว์ที่ถูกทารุณกรรมหรือเจ็บป่วยโดยไร้ที่พึ่งพิง ความเมตตาช่วยเหลือที่ท่านมอบให้สัตว์ด้อยโอกาส จะทำให้พวกเขาได้รับการดูแลรักษา และได้รับโอกาสในการมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างมีสวัสดิภาพที่ดีตลอดไป”..

ขอขอบคุณข้อมูลจาก @เพจมูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand Foundation – WDT