เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า พร้อมนายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.พิชัย มีอัฐมั่น รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ดุสิต ตามหมายเรียกเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ในความผิดตามมาตรา 112 ฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ตามที่นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์ได้เข้าแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 17 พ.ย.2564

นายปิยบุตร ได้เดินทางมาด้วยรถตู้สีขาว มีประชาชนได้นำดอกกุหลาบมามอบให้ พร้อมกล่าวทักทายก่อนเดินข้ามถนนไปยัง สน.ดุสิต ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรั้วมากั้นที่เชิงสะพาน พร้อมห้ามผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาในพื้นที่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจวัดอุณหภูมินายปิยบุตร และผู้ติดตามทุกคน ก่อนเดินขึ้นไปบนห้องประชุมชั้น 3

ต่อมานายปิยบุตร เปิดเผยภายหลังเข้าพบคณะพนักงานสอบสวนว่า ยืนยันว่าเรื่องเหล่านี้พูดคุยกันได้ ในรูปแบบวิชาการ เอาใจเขามาใส่ใจเรา แต่การแสดงออกของตนกลับถูกดำเนินคดี หากในท้ายที่สุด สังคมเห็นว่าการแสดงความเห็นทางวิชาการนี้ยังโดนคดี ก็จะไม่เห็นพื้นที่พูดคุยในที่สาธารณะได้เลย สำหรับคนกล่าวโทษก็ไม่เป็นไร ตนไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัวมาก่อน อยากเรียนฝากน้องๆ ให้พิจารณาเรื่องข้อกฎหมายบ้าง นี่คือการเอาผิดในทางคดีอาญา ไม่ใช่เอาจินตนาการความรู้สึกนึกคิดเอาเอง ไปแจ้งความคนเพื่อปิดปากไม่ให้เขาพูด

ด้านนายกฤษฎางค์ กล่าวว่า ตำรวจเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาจากถ้อยคำในทวิตเตอร์และเฟซบุ๊ก เจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นว่ามีข้อความผิดอยู่คือในทวิตเตอร์ วันที่ 24 ต.ค. 64 เบื้องต้นได้รับทราบข้อกล่าวหา และให้การปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำความผิด และขอเวลาให้ถ้อยคำโต้แย้งต่อสู้คดี ภายใน 30 วันนับจากวันนี้ โดยไม่มีการควบคุมตัวแต่อย่างใด เนื่องจากผู้ต้องหามาพบด้วยเอง ตลอดจนไม่มีการออกหมายจับหรือหมายขังไว้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ของนายปิยบุตร ในวันนี้ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.พรรคก้าวไกล และกลุ่มผู้สนับสนุน ได้ตั้งโต๊ะล่ารายชื่อเพื่อร่วมรณรงค์ยกเลิก ม.112 ด้วย