นางสาววารี แว่นแก้ว รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี อนุมัติงบกลางให้จ่ายเงินช่วยเหลือพิเศษผู้สูงอายุ 10.94 ล้านคน วงเงิน 8,382.20 ล้านบาท เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านเศรษฐกิจ โดยผู้สูงอายุที่ได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จะได้รับเงินช่วยเหลือพิเศษผู้สูงอายุ 100-250 บาท/คน/เดือน เป็นเวลา 6 เดือน (เมษายน-กันยายน 2565)

กรมบัญชีกลางในฐานะหน่วยงานที่ทำหน้าที่ในการเบิกจ่ายเงินงบประมาณดังกล่าว เตรียมโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากให้แก่ผู้มีสิทธิ โดยจะจ่ายเงินรอบแรกวันที่ 19 กรกฎาคม 2565 รวม 4 เดือน (เมษายน-กรกฎาคม 2565) รอบถัดไปในวันที่ 19 สิงหาคม 2565 และ 19 กันยายน 2565 ตามลำดับ ซึ่งผู้มีสิทธิที่ได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จะได้รับเงินช่วยเหลือพิเศษผู้สูงอายุ ดังนี้

  • ผู้ที่ได้รับ เงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 60-69 ปี เดือนละ  600 บาท จะได้รับ​เงินช่วยเหลือพิเศษผู้สูงอายุ ​เดือนละ 100 บาท
  • ผู้ที่ได้รับ เงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 70-79 ปี  เดือนละ 700 บาท จะได้รับ​เงินช่วยเหลือพิเศษผู้สูงอายุ เดือนละ150 บาท
  • ผู้ที่ได้รับ เงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 80-89 ปี เดือนละ 800 บาท จะได้รับ​เงินช่วยเหลือพิเศษผู้สูงอายุ เดือนละ 200 บาท 
  • ผู้ที่ได้รับ เงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 90 ปีขึ้นไป เดือนละ 1,000 บาท จะได้รับ​เงินช่วยเหลือพิเศษผู้สูงอายุ เดือนละ 250 บาท

ทั้งนี้ วันที่ 19 กรกฎาคม 2565 (จ่ายย้อนหลัง 4 เดือนตั้งแต่เดือน เม.ย.-ก.ค.65) อายุ 60-69 ปี ได้รับเงินทั้งหมด 400 บาท อายุ 70-79 ปี ได้รับเงินทั้งหมด 600 บาท อายุ 80-89 ปี ได้รับเงินทั้งหมด 800 บาท อายุ 90 ปีขึ้นไป ได้รับเงินทั้งหมด 1,000 บาท