เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย (บก.ภ.จว.เชียงราย) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. และหัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเตอร์เน็ต สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงความคืบหน้าคดีค้ามนุษย์ 2 ราย รายแรก กรณีตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) กก.4 บก.สอท.4 สอท.และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เชียงราย ดำเนินคดีกับขบวนการถ่ายทอดสดการมีเพศสัมพันธ์ผ่านแอพพลิเคชั่นจีน เหตุเกิดที่รีสอร์ทพื้นที่ อ.เมืองเชียงราย เมื่อวันที่ 26 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยบุกเข้าจับกุมผู้ถ่ายทำและสนับสนุนรวม 16 คน เป็นชาวจีน 9 คน ลาว 4 คน และไทย 3 คน และดำเนินคดีกับตำรวจ กก.สส.ภ.จว.เชียงราย 4 นาย ยศ “พ.ต.ท.” 1 นาย, “ร.ต.อ.” 2 นาย และตำรวจชั้นประทวนยศ “ส.ต.อ.” อีก 1 นาย ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบฯ และร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ฯ หลังสืบสวนแล้วพบว่ามีการเรียกเก็บเงินจากขบวนการดังกล่าวเป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ชุดคลี่คลายคดีได้ขยายผลทราบว่า เมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา มีบุคคลต่างด้าวเป็นชาวจีน 2 ราย และชาวลาว 4 ราย ส่วนหนึ่งเป็นเหยื่อที่ถูกช่วยเหลือในคดีนี้ ได้เดินทางจาก สปป.ลาว เข้าสู่ประเทศไทยโดยผิดกฎหมายเพื่อจะเดินทางจะไปถ่ายทำการถ่ายทอดสดดังกล่าว แต่ได้พบจุดตรวจตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย จึงถูกจับกุม แต่หนึ่งในผู้ต้องหาได้นำเงินมอบให้ตำรวจระดับ “ร.ต.อ.” นายหนึ่งที่เป็นผู้ต้องหาชุดแรก 70,000 บาท เพื่อขอให้ตำรวจชุดจับกุมปล่อยตัว ทำให้ทั้งหมดถูกปล่อยตัว
ต่อมาถูกพบว่า ไปถ่ายทอดสดการมีเพศสัมพันธ์ผ่านแอพพลิเคชั่น ทางตำรวจชุดคลี่คลายคดีจึงได้ขออนุมัติหมายจับศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 ออกหมายจับดำเนินคดีกับตำรวจสังกัด สภ.เมืองเชียงราย อีก 8 นาย ประกอบด้วย ยศ “ร.ต.อ.” 1 นาย ส่วนที่เหลือเป็นตำรวจชั้นประทวนยศ “ด.ต.” 3 นาย, “ส.ต.อ.” 3 นาย และ “ส.ต.ท.” 1 นาย ในข้อหา ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ฯ ซึ่งทั้งหมดได้ถูกจับกุมและรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ปัจจุบันคดีนี้อยู่ในขั้นตอนการสืบพยาน และมีผู้ต้องหาเป็นชาวจีนหลบหนีไปได้ 1 คน จึงได้มีออกเป็นหมายแดงเพื่อให้ตำรวจสากลติดตามจับกุมต่อไป
อีกรายเป็นคดีหญิงสาวชาวไทย 6 คน ได้รับการช่วยเหลือหลังจากถูกหลอกไปทำงานที่เมืองป๊อก รัฐฉาน ประเทศเมียนมา ในเขตปกครองของว้า ต่อมาได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ไทยที่ประสานกับเจ้าหน้าที่เมียนมา พาทั้ง 6 คนกลับคืนสู่ประเทศไทยผ่านทาง อ.แม่สาย ได้สำเร็จเมื่อวันที่ 7 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งจากมีการคัดแยกเหยื่อจากการค้ามนุษย์ พบว่า ทั้ง 6 คน ถือเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ และเมื่อสอบสวนทำให้ทางพนักงานสอบสวน สภ.แม่สาย ได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหา 5 ราย ซึ่งมีหัวหน้าที่เป็นนายหน้าในการชักชวนคนไปประเทศเมียนมา 2 คน เป็นผู้หญิง ชาว จ.สุรินทร์ และชาว จ.สงขลา ปัจจุบันจับกุมตัวได้แล้วในข้อหาร่วมกันโฆษณาหรือรับโฆษณา ชักชวน หรือแนะนำด้วยเอกสารสิ่งพิมพ์ หรือกระทำให้แพร่หลายด้วยวิธีใดไปยังสาธารณะที่เห็นได้ว่าเป็นการเรียกร้อง หรือการติดต่อเพื่อค้าประเวณีของตนเอง หรือผู้อื่น ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดให้เพื่อบุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม และไม่ว่ากระทำต่างๆ อันประกอบเป็นความผิดนั้นจะได้กระทำภายในหรือนอกราชอาณาจักร
นอกจากนี้ยังมีตำรวจ 2 นายเป็น “ร.ต.อ.” 1 นาย และ “ส.ต.อ.” 1 นาย ถูกดำเนินคดีในข้อหา เป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบฯ และมีพลเรือนชาย ชาว อ.แม่จัน จ.เชียงราย ถูกดำเนินคดีในข้อหา เรียก รับ หรือยอมรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่น เป็นการตอบแทนในการที่จะจูงใจเจ้าพนักงานโดยวิธีอันทุจริตหรือผิดกฎหมาย หลังจากในช่วงที่หญิงสาวทั้ง 6 คน กำลังจะเดินทางไปยังประเทศเมียนมาได้ถูกตำรวจชุดดังกล่าวตรวจพบ และมีการเรียกรับเงิน 60,000 บาท เมื่อมีการจ่ายเงินแล้วก็ได้พาทั้ง 6 คน ข้ามไปยังฝั่งประเทศเมียนมา ได้สำเร็จด้วย
คดีนี้ยังมีผู้ต้องหาที่หลบหนีไปได้อีก 1 คน และอีกส่วนหนึ่งอยู่ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เพราะการลักลอบข้ามแดนในลักษณะนี้จะทำฝ่ายเดียวไม่ได้ จึงจะมีการประสานกับประเทศเพื่อนบ้าน และเมื่อสืบสวนรู้ตัวก็จะจัดทำเป็นหมายแดงเพื่อขอให้ตำรวจสากลติดตามจับกุมเช่นกัน โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ตนร่วมกับ ผบช.ภ.5 และ ผบก.ภ.จว.เชียงราย ดำเนินการอย่างเข้มงวด หากถามว่าเห็นใจตำรวจหรือไม่ ตนก็ขอบอกว่าเห็นใจ แต่ถูกผิดก็ต้องว่ากันตามกฎหมาย รวมทั้งยืนยันว่าตำรวจส่วนใหญ่เป็นคนดี เมื่อดำเนินการอย่างเฉียบขาดแล้วสถานการณ์เช่นนี้จะดีขึ้นต่อไป.
