จากกรณี เกิดเหตุเครื่องยนต์เรือโดยสารสปีดโบ๊ต ชื่อ เรือลมหลักคีรินทร์ 18 ระเบิดและเกิดเพลิงไหม้เสียหายทั้งลำ ขณะนำนักท่องเที่ยวคนไทย จำนววน 18 คน และลูกเรือ 2 คน เดินทางไปยังเกาะเต่า เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 20 คน เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 14.30 น.วานนี้ (20 ก.ค.)

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 21 ก.ค. พ.ต.อ.สถิต ทองเนียม ผกก.สภ.ปากน้ำชุมพร พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมบุญ ศรีสิรุฬห์โชติ ผกก.ตำรวจพิสูจน์หลักฐานชุมพร และ ร.ต.อ.พรอุมา แก้วประดิษฐ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปากน้ำชุมพร ลงพื้นที่ท่าเรือ บริษัท เรือเร็วลมพระยา จำกัด สาขาชุมพร ต.หาดทรายรี อ.เมือง จ.ชุมพร เก็บหลักฐานเรือลมหลักคีรินทร์ 18 ที่เกิดเหตุเครื่องยนต์ระเบิดและเพลิงไหม้ ขณะนำนักท่องเที่ยว จำวน 18 คน และลูกเรือ 2 คน ไปส่งยังเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อท่องเที่ยวและเรียนดำน้ำ

จากการตรวจสอบสภาพเรือที่ลากมาไว้บนชายหาดใกล้ท่าเรือ พบว่าถูกไฟไหม้เสียหายทั้งลำ เหลือเพียงโครงล่างกระดูกงูเท่านั้น โดยเฉพาะเครื่องยนต์จุดระเบิดไฟไหม้ดำจนกลายเป็นเศษเหล็ก และเศษซากเถ้าถ่านที่ถูกไฟลุกไหม้

พ.ต.อ.สถิต เปิดเผยว่า เบื้องต้นเรื่องของคนเจ็บ เมื่อวานนี้ (20 ก.ค.) ทางเจ้าหน้าที่ได้เน้นไปดูแลในเรื่องของผู้โดยสาร ที่ประสบเหตุ ได้รับบาดเจ็บทุกคน รวมทั้งทางท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ก็ได้จัดที่พักให้กับนักท่องเที่ยวที่บาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนฝ่ายบริษัทเรือก็ได้เข้าไปดูแลในเบื้องต้น ในส่วนที่สามารถดำเนินการได้ รวมทั้งประกันภัยของเรือ ที่กรมธรรม์คุ้มครอง 

ในส่วนการดำเนินการทางด้านกฎหมาย ขณะนี้อยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น ว่าเกิดจากอะไรได้บ้าง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าไปตรวจสอบเรือเบื้องต้นเอาไว้แล้ว แต่จะมีทางฝ่ายช่างของทางเจ้าท่า จะเข้าไปร่วมตรวจกันอีกครั้งหนึ่ง ขณะนี้อยู่ในระหว่างการประสานกับทางเจ้าท่า สำหรับการดำเนินคดีนั้นทางผู้บังคับบัญชาก็ได้สั่งการมาแล้วว่า ให้ดำเนินคดี รวบรวมพยานหลักฐาน ที่จะต้องใช้ระยะเวลา เพราะเป็นเรื่องของเทคนิคด้วย แต่เท่าที่ทราบไฟไหม้ที่เครื่องยนต์ แต่ก็ไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไร ซึ่งทางเจ้าท่าจะส่งผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของเครื่องยนต์เรือ มาตรวจสอบอีกครั้ง

ด้าน นายมรกต กันติวงศ์ ผู้จัดการบริหาร เรือเร็วลมพระยา สาขาชุมพร กล่าวว่า บริษัท ลมพระยา ได้ตกลงให้เรือลมหลักคีรินทร์มารับนักท่องเที่ยว โดย บริษัท ลมหลักคีรินทร์ เป็นบริษัทที่ทำเรือสปีดโบ๊ตโดยตรง ส่วนในเรื่องของการ Maintenance นั้น ทางบริษัทได้ดำเนินมาโดยตลอดไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการดูแลเครื่องยนต์หรือตัวลำเรือ รวมไปถึงอุปกรณ์ภายในเรือ ก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนั้น เรือได้ออกจากท่าไปประมาณ 2 นาที ก็ได้เกิดเครื่องยนต์ขัดข้องไฟลุกไหม้ ซึ่งจากการสอบถามพนักงานบนเรือนั้น บอกว่าในช่วงที่เรือแล่นออกจากท่าเรือนั้นได้ใช้เครื่องยนต์ 2 เครื่องยนต์ และเมื่อเริ่มใช้เครื่องยนต์เครื่องที่ 3 ก็เกิดการระเบิดขึ้น เบื้องต้นสาเหตุของเหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะมาจากเครื่องยนต์ขัดข้อง และในส่วนที่นักท่องเที่ยวได้กลิ่นน้ำมันตั้งแต่ที่เรือยังไม่ออกจากท่านั้น ขอเรียนชี้แจงแจงว่า เรื่องของกลิ่นน้ำมันกับเรือสปีดโบ๊ตนั้นเป็นเรื่องปกติ

ในขณะที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน กล่าวว่า คงต้องนำเรือขึ้นมาไว้บนฝั่งก่อน เพราะน้ำเริ่มขึ้น เรือจะจม จะยากในการตรวจพิสูจน์ และต้องรอให้ทางผู้เชี่ยวชาญเคมีฟิสิกส์ของตำรวจพอสูจน์หลักฐานที่กำลังเดินทางมาจาก จ.สุราษฏร์ธานี อีกด้วย