จากกรณีผู้สื่อข่าวพบชายวัยกลางคนกำลังนอนหลับอยู่บริเวณชั้นล่างของสถานีตำรวจภูธรรัตนาธิเบศร์ ท่ามกลางสายตาประชาชนที่มาติดต่อราชการ จึงเข้าไปสอบถามความเป็นมา ชายคนดังกล่าว คือ นายศิวะ (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี อาชีพ รปภ. ก่อนเล่าเรื่องราวอันสุดเศร้าอย่างน่าสงสารว่าสาเหตุที่ออกมานอนที่โรงพัก เพราะโดนเมียไล่ออกจากบ้าน เนื่องจากไม่ยอมทำการบ้านมอบความสุขให้เมีย ตามหน้าที่ของสามีที่ดีนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 31 ก.ค. ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่บ้านหลังหนึ่ง ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พบว่าเป็นบ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น โดยพบกับ น.ส.สำราญ (สงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี อดีตภรรยาของนายศิวะ เล่าว่า เรื่องที่อดีตสามีให้สัมภาษณ์นักข่าวนั้น ทำให้ตนได้รับความเสียหาย ต้นอยากจะฟ้องร้องเขาเหลือเกิน แต่ด้วยสภาพที่เขาเป็นอย่างนี้คงไม่คิดที่จะไปเอาเรื่องเอาราว เห็นสภาพเขาทุกวันนี้ก็ยังอดสงสารไม่ได้ เอาแต่กินเหล้างานการไม่ยอมทำ

ลืมหน้าที่สามีที่ดี! ‘เมีย’ เดือดไล่ ‘ผัว’ ออกจากบ้าน บ้าแต่งาน-การบ้านไม่ทำ

น.ส.สำราญ เล่าต่อว่า อดีตสามีเป็น รปภ. มาแล้วหลายหมู่บ้าน แต่ด้วยที่เป็นคนติดเหล้าทำให้ถูกไล่ออกจากงานมาแล้วหลายครั้ง ปัจจุบันตนเองก็มีสามีใหม่แล้ว เขาเป็นคนดี เราสองคนก็มีลูกด้วยกัน 1 คน เมื่อเกิดเรื่องราวขึ้นตนรู้สึกโกรธเขามาก แต่ก็ต้องทำใจ เพราะสภาพเขาเป็นแบบนี้ ส่วนประเด็นสำคัญที่เขาให้สัมภาษณ์ว่าไม่ค่อยได้ทำการบ้านนั้น ตนขอยืนยันเลยว่าไม่เกี่ยวข้องกันอย่างสิ้นเชิง ตลอดเวลาที่แต่งงานอยู่กินกัน เขาเองไม่เคยทำหน้าที่สามีที่ดีเลย ไม่ใช่เรื่องอย่างว่าอย่างแน่นอน

“บ้านหลังนี้ตนก็เป็นคนผ่อน ส่วนรถเก๋งเขาเป็นคนซื้อจริง และตนก็ได้ขายไปจริงเพื่อเอาเงินมาลงทุน เมื่อเกิดเรื่องขึ้นแบบนี้ตนเองก็เตรียมย้ายที่อยู่ไปอยู่ที่อื่นดีกว่า จะได้ไม่ต้องเจอกับอดีตสามีที่ให้ร้ายตนอีก เรื่องที่เกิดขึ้นอยากชี้แจงให้สังคมเข้าใจ ความจริงไม่ได้เป็นอย่างที่อดีตสามีให้สัมภาษณ์กับนักข่าวเลย จึงอยากขอความเห็นใจตนและครอบครัวด้วย ตนเป็นคนจริงพูดจริงทำจริง เปิดเผยได้ไม่เคยปิดบังอยู่แล้ว อะไรที่เป็นเรื่องจริงควรมาพูดกันดีกว่า ไม่ใช่มาพูดแบบนี้ซึ่งมันเป็นคนละเรื่องกันเลย” อดีตภรรยา นายศิวะ กล่าว