เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.) ร่วมเสวนาในหัวข้อ “อาหารดี อร่อย จากดอยโครงการหลวง” ร่วมกับคุณสุทธิพงษ์ สุริยะอาสาสมัครมูลนิธิโครงการหลวง โดยมีดร.รุ่งทิพย์ โชติณภาลัย สื่อมวลชนอิสระเเละอาจารย์พิเศษ และคุณศิริบูรณ์ ณัฐพันธ์ ผู้ผลิตและผู้ดำเนินรายการชีวิตชีวา ช่อง 33 เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งกิจกรรมเสวนาในวันนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานกิจกรรมโครงการหลวง 53 ภายใต้Concept: The infinite blooms ร่วมแรงร่วมใจ ให้งอกงาม อย่างไม่มีที่สิ้นสุด จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 4 – 14 ส.ค. 2565 ที่พื้นที่กิจกรรมชั้น 1 และโซน Eden ชั้น 2 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ 

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนีพันปีหลวง ได้พระราชทานโครงการพระราชดำริมากกว่า 4,000 โครงการ ล้วนเป็นโครงการที่พัฒนาคนและสร้างคุณภาพชีวิตทั้งสิ้น ซึ่งเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่ สอดคล้องกับวาระแห่งชาติเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว จนกระทั่งสหประชาชาติได้ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์  เป็นรางวัลเกียรติยศด้านการพัฒนาของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติและสิ่งที่พระองค์ได้ทรงริเริ่มและทรงงานมาตลอดพระชนม์ชีพ ปัจจุบันองค์ความรู้ดังกล่าวนำมาสู่แนวคิดหลักการพัฒนาที่ยั่งยืนหรือSDGs ของสหประชาชาติทั้ง 17 ข้อ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่ปวงชนชาวไทยที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงมีพระราชปณิธานในการสืบสาน รักษา และต่อยอด โครงการตามแนวพระราชดำริต่างๆ ที่ได้ทรงทำไว้ โครงการหลวง 53 เเสดงให้เห็นถึงความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมของโครงการหลวง 

นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า เป็นเรื่องที่น่าละอายใจ ที่ต่างประเทศโดยองค์การสหประชาชาติยกย่องว่าเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหัวใจของโมเดลเศรษฐกิจใหม่  เราในฐานะคนไทยจึงจำเป็นจะต้องเริ่มตระหนักว่า “จะทำอย่างไรให้เกิดการน้อมนำแนวทางพระราชดำริไปอยู่ในใจของพี่น้องประชาชนไทยทุกคน ทุกภูมิภาค นำไปสู่วิถีชีวิตที่เป็นกิจวัตรประจำวัน” ขณะที่มท. ได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลให้เป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาความยากจนและความเดือดร้อนทุกเรื่องที่พี่น้องประชาชนกำลังประสบอยู่และไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตัวประชาชนเอง อันสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายในการปฏิบัติหน้าที่ราชการเพื่อทำนุบำรุงให้ทุกพื้นที่ ทุกจังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน มีความมั่นคง 

นายสุทธิพงษ์ กล่าวด้วย ประเทศชาติหรือพื้นที่จะมั่นคง “คนต้องมีความสุข” ซึ่งแน่นอนว่า คนจะมีความสุขได้ ทุกบ้าน ทุกสังคม ต้องมีหัวหน้าครอบครัว เช่นกัน “จังหวัดก็ต้องมีผู้นำ” คือท่านผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะนายกรัฐมนตรีของจังหวัด “อำเภอก็ต้องมีผู้นำ” คือ ท่านนายอำเภอในฐานะนายกรัฐมนตรีของอำเภอ ที่เป็นโซ่ข้อกลางระหว่างพื้นที่และส่วนกลาง สิ่งที่ดีทุกเรื่องจะเกิดการ Change for Good ขึ้นได้ ผู้นำต้องมีภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง โดยความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ด้วยการพัฒนาคน สร้างทีมจากทุกตำบล/หมู่บ้าน และชุมชนที่เข้มแข็ง และเดินหน้าพัฒนาอย่างทั่วถึง 

“ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ผู้พระราชทานกำเนิด “โครงการหลวง” และทฤษฎีใหม่ รวมถึงโครงการพระราชดำริต่างๆ มากกว่า 4,000 โครงการ ส่งผลให้เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนคนไทย ช่วยเหลือเกษตรกรพี่น้องคนไทย ที่ทำการเกษตรแบบเศรษฐกิจสีเขียวเป็นมิตรต่อสิ่งเเวดล้อม เเละขอเชิญชวนพี่น้องคนไทยสวมใส่ผ้าไทย เพื่อเป็นการเสริมสร้างความเเข็งแรงให้กับเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน” นายสุทธิพงษ์  กล่าว.