จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง น.ส.จิตตภัส หรือเจ๊หญิง เชิดชูพงศ์เจริญ อายุ 43 ปี เสียชีวิตภายในลานจอดรถ วันชัย คาร์แคร์ ในพื้นที่หมู่ 2 ต.วัดประดู่ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งหลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้รวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถจับกุมผู้ต้องหากับพวกตามหมายจับศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้จำนวน 6 ราย ประกอบด้วย 1. นายธัญญะ หรือบอมบ์ วิชัยดิษฐ อายุ 31 ปี ทำหน้าที่ เป็นผู้ใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย 2. นายณัฐพงศ์ หรือเอ็ม สุวรรณน้อย อายุ 31 ปี ทำหน้าที่ เป็นผู้ขับขี่รถ จยย. คันก่อเหตุ/ดูเป้า 3.นายรณกรหรือวัตน์ วิชัยดิษฐ อายุ 49 ปี ทำหน้าที่ เป็นผู้จัดหามือปืน/วางแผนก่อเหตุ 4. นายอรรถพร หรือเบ็ต นพคุณ อายุ 68 ปี ทำหน้าที่ เป็นผู้รับงาน/ชี้เป้า/วางแผนก่อเหตุ 5. นายสมหมาย หรือหมาย เรืองเจริญ อาย 63 ปี ทำหน้าที่ เป็นผู้ใช้/จ้างวาน 6. นายจำนงค์ นาวาแก้ว อายุ 62 ปี เป็นผู้ใช้/จ้างวาน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 ส.ค. ที่สำนักอัยการภาค 8 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดี พร้อมด้วยคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ได้นำสำนวนการสอบสวนในข้อหา ร่วมฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ส่งพนักงานอัยการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อพิจารณาสำนวนฟ้องผู้ต้องหา 4 ราย ประกอบด้วย 1. นายธัญญะ 2. นายณัฐพงศ์ 3. นายรณกร และ 4. นายอรรถพร โดยมี นายนายสุวัฒน์ พรหมขุนทอง อัยการจังหวัด จังหวัดสุราษฎร์ธานี รับสำนวนคดี

ภายหลัง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในคดีร่วมกันฆ่าฯ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนการสอบสวนปากคำพยานจำนวน 44 ปาก มีเอกสารในคดีกว่า 1,591 แผ่น พร้อมพยานหลักฐานที่สำคัญ ทั้งทางนิติวิทยาศาสตร์ กล้องวงจรปิด ที่ยืนยันการกระทำความผิดของผู้ต้องหาทุกคนได้โดยปราศจากข้อสงสัย ซึ่งเรามั่นใจในพยานหลักฐานเชื่อว่าจะเอาผิดผู้ต้องหาได้

“ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 รายคือ นายจำนงค์ นาวาแก้ว อายุ 62 ปี นายสมหมาย เรืองเจริญ อาย 63 ปี ซึ่งเป็นผู้ใช้ จ้างวาน การรวบรวมพยานหลักฐานยังไม่แล้วเสร็จ แต่คาดว่าคณะพนักงานสอบสวนจะสามารถสรุปสำนวนเพื่อส่งสำนวนให้พนักงานอัยการพิจารณาฟ้องผู้ต้องหาได้ภายใน 3 สัปดาห์นี้ แม้ว่าในชั้นพนักงานสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 ยังให้การปฏิเสธ แต่เรามีพยานหลักฐานที่ยืนยันชัดเจนและสามารถเอาผิดปู้ใช้จ้างงานทั้ง 2 รายได้” ผช.ผบ.ตร. กล่าว

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า หลังจากเกิดเหตุเป็นเวลากว่า 2 เดือนแล้ว ที่มีการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งมีการแบ่งหน้าที่กันทำ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้กำชับและเน้นย้ำให้ทำสำนวนด้วยความรอบคอบและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และสามารถตอบคำถามสังคมได้.