พักหลังมาเรามักจะไม่ค่อยเห็นเธอโลดแล่นอยู่ในวงการเท่าไร เพราะเอาเวลาไปให้กับครอบครัวเป็นส่วนใหญ่ สำหรับพิธีกรนักแสดงสาวคนเก่ง เข็ม-กฤตธีรา อินพรวิจิตร หรือที่เรารู้จักเขาในชื่อของ เข็ม ตีสิบ ล่าสุดเธอออกมาอัพเดทชีวิตให้ฟังในรายการโต๊ะหนูแหม่ม พร้อมเล่าเหตุการณ์ในอดีตที่จำฝังใจ ครั้งนึงในชีวิตเธอเคยสูญเสียคนรักไปอย่างกะทันหัน ถึงกับปล่อยโฮกลางรายการเลยทีเดียว

เข็ม เผยว่า “เรื่องหายหน้าจากวงการบันเทิงไปนานมาก ถ้าไม่รับงานพิธีกรก็หายไปประมาณ 10 ปี แต่ก็จะมีรับงานละครบ้างเรื่อย ๆ ก่อนหน้านี้เราก็จะเลี้ยงแมวแล้วก็ดูแลคุณแม่บ้าง แต่หลังจากนี้ก็จะเห็นหน้าเราเรื่อย ๆ ให้ได้หายคิดถึง แต่หลักๆ ก็จะดูแลคุณแม่ส่วนใหญ่เพราะท่านก็อายุเยอะแล้ว เรื่องไม่มีแฟนเพราะเบอร์โทรศัพท์ ต้องบอกก่อนว่าไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้เท่าไหร่ ก็จะมีคนชอบเอาเบอร์โทรศัพท์ไปดูดวงให้ และเค้าจะมีคนทักว่าเบอร์เราจะมีเลข 7 ไม่ได้นะ เข้าวงการนี้ยิ่งไม่ได้เลย ก็เลยต้องเริ่มจากเปลี่ยนเลขทะเบียนรถ แล้วค่อยมาเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งพอเปลี่ยนแล้วชีวิตก็เหมือนเดิม ขอเล่าเหตุการณ์เป็นคนหัวอ่อนให้ฟัง ช่วงที่ทำงานกับรายการตี 10 ตอนนั้นไปอัดรายการที่สตูดิโอและมีคนมารอเยอะมาก อยู่ดีๆ ก็มีคนดึงเราเข้าไปคุยอ้างบอกว่าลูกไม่สบาย แถมโดนยึดรถยึดบ้านพร้อมกับขอเงินเรา 5,000 เราก็ไปกดเอทีเอ็มให้เขาเดี๋ยวนั้นเลย และมารู้ที่หลังจากพี่ร่วมงานว่าคนนี้เค้าไปขอทุกรายการเลย”

“เรื่องไม่สมหวังในรักจะเป็นคนที่คิดว่าถ้าเรารักใครคนนั้นก็จะรักเรา แต่หลังจากนั้นเราก็ค่อย ๆ เรียนรู้ไป ว่าโลกที่เราจินตนาการไว้มันสวยไป พาเจอเหตุการณ์มากขึ้นเราก็เริ่มสตรองมากขึ้นจนตอนนี้เป็นคนไม่ค่อยไว้ใจใครเลย เข็มเป็นคนชอบอยู่คนเดียว และที่สร้างบ้านก็เพราะให้หมาตัวเดียวเลย ต้องเล่าก่อนว่าเราไปเจอหมาตัวนี้น่าสงสารมาก เราก็เลยไปซื้อมา และสมัยก่อนอยู่คอนโดฯ ก็ต้องแอบเลี้ยงจนเป็นสาเหตุทำให้เราต้องซื้อบ้านแทน ซึ่งก็จะเป็นคนอยู่บ้านคนเดียว ไปไหนก็ไปคนเดียวแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว แต่ว่าจะต้องมีเวลาส่วนตัวให้กับเรา 70-30 อย่างตื่นมาตอนเช้าตี 5 ครึ่ง เรามีความสุขมากที่ได้เล่นกับแมวและร้องเพลง”

เข็ม เล่าต่อว่า “เรื่องรักฝังใจในวัยมัธยมอันนั้นคือจำไม่เคยลืมเลยค่ะ เป็นเพื่อนสนิท เป็นช่วงตอนเรียน ม.4 ค่ะ ผู้ชายก็จะชอบมาเล่นด้วย มาดึงผม เราก็รู้ว่าเค้าชอบแต่เราก็จะเป็นฟีลแบบสนิทกัน ก็จีบมาตลอดประมาณเกือบ 3 ปี แต่เราก็คิดว่าเป็นแค่เพื่อน เพราะตอนนั้นที่บ้านไม่ให้มีแฟน คุณแม่บอกว่ารอสอบติดมหาลัยก่อนค่อยว่ากัน พอเราทั้งคู่สอบติดปุ๊บ เค้าก็ขับรถมาหาเราที่บ้านเลย จับมือกันฟีลตอนนั้นแค่นั้นก็มีความสุขแล้ว แต่ก็จะรักบ้างห่างบ้าง รัก ๆ เลิก ๆ กันไป จนจบมหาวิทยาลัยก็ไปเรียนต่อด้วยกันที่บอสตัน ซึ่งที่บ้านเราก็จะสนิทกันมาก ตอนนั้นสนิทกันถึงขั้นเราไปนอนบ้านเค้า ไปนอนกับคุณแม่และพี่สาวเค้า เชื่อใจมาก คือคบ 14 ปี ยาวนานมาก พอเรียนจบแล้วกลับมาก็เกิดอุบัติเหตุกับตัวเขารถชนที่หลังสวนก็นอนอยู่ในห้องไอซียูประมาณ 17 วัน คือเราก็ทำทุกอย่างถึงขั้นมูเลย บอกว่าถ้าฟื้นมานานแล้วเดี๋ยวจะมาแต่งงานกัน สวดมนต์ไม่กินเนื้อสัตว์ คือทำทุกวิถีทาง สุดท้ายก็จะมีวันที่ปล่อยเขาไป มันเป็นรักที่ใช่ เป็นรักที่เข้าใจเป็นคู่ชีวิต เป็นรักที่จำฝังใจ เพราะเวลาที่เราเสียใครไปเราไม่ได้มองว่าเค้าตายนะ เรามองว่าเราไม่ได้เจอเขาแล้ว เหมือนกับว่าฉันจะไม่ได้คุยกับคนนี้แล้ว จะไม่ได้โทรฯหาคนนี้แล้ว จะไม่ได้งอนคนนี้แล้วนะ ก็จะพยายามคุยกับแม่ทุกวัน ให้กำลังใจคนที่อยู่ เพราะว่าเรารู้แล้ววินาทีที่เราจะไม่ได้เจอใครคนใดคนนึงตลอดชีวิต เพราะฉะนั้นมันทำให้เราเป็นคนที่ให้อภัยคนเร็ว โกรธคนน้อย ไม่เคือง ไม่เสียเวลาที่จะทะเลาะกับใคร”