เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.) ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กทม. น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 57 ปี เจ้าหน้าที่ธุรกิจ สำนักงานกฎหมายเอกชนแห่งหนึ่ง เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.หญิงพรพิมล ดอกไม้ สว.กก.1.บก.ป. แจ้งความกรณีถูกหลอกลวงให้ร่วมลงทุนซื้อที่ดิน ซึ่งได้ร่วมลงทุนด้วยการทยอยจ่ายเงินไปแล้วเป็นเวลานานเกือบสองปี รวมเป็นเงินประมาณ 1.3 ล้านบาท

น.ส.เอ เปิดเผยว่า ที่ตนมาพบพนักงานสอบสวนกองปราบฯ ในวันนี้เพราะเห็นว่า นายบี (นามสมมุติ) บุคคลที่แอบอ้างชักชวนให้พวกตนลงทุนร่วมกันซื้อที่ดินดังกล่าว ยังไม่หยุดการกระทำ ยังติดต่อชักชวนระดมทุนอยู่อีก ทั้งที่ตนได้แจ้งความดำเนินคดีกับเขาเมื่อเดือน พ.ย. 2564 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง ซึ่งคดีอยู่ระหว่างพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน รวบรวมพยานหลักฐานอยู่ ตนได้รู้จัก นายบี นายหน้าค้าที่ดินผ่านเพื่อนที่แนะนำว่านายบีทำธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อขายที่ดินซื้อมาถูกเอาไปขายเอากำไรในราคาสูงนับพันล้านบาท แล้วแบ่งกำไรกัน ก่อนจะชักชวนให้ตนร่วมลงทุนด้วย

โดยวิธีการเข้าไปช้อนซื้อที่ดินแปลงย่อยหลายๆ แปลงใน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อให้เป็นที่ดินผืนใหญ่ เวลาขายจะได้กำไรมากกว่าเดิมหลายเท่า ตนสนใจเห็นว่าได้กำไรงาม จึงตัดสินใจร่วมลงทุนด้วย ได้พูดคุยกับนายบี ผ่านไลน์อย่างเดียวไม่เคยเจอตัวจริงหรือเห็นหน้าเลย นายบี จะแจ้งบอกแต่ละคนที่ร่วมลงทุนด้วยว่า ต้องการเงินจำนวนเท่านั้นเท่านี้ เพื่อเอาไปเป็นค่านั่นค่านี้ ผู้ร่วมลงทุนคนอื่นๆ รวมทั้งตนก็จะโอนเงินไปให้

ต่อมาวันที่ 10 ส.ค.64 ตนได้โอนเงินจำนวน 40,000 บาท ไปให้นายบี วันที่ 25 ส.ค.64 โอนเงิน 3 ครั้ง จำนวน 200,000 บาท 65,000 บาท 35,000 บาท รวมเป็นเงิน 300,000 บาท ไปให้นายบี หลังจากนั้นผ่านมาเดือน ต.ค.64 นายบี ได้ดีดตัวเองออกจากไลน์กลุ่มที่ร่วมลงทุน ตนสงสัยว่าจะถูกหลอกลวงให้ลงทุนซื้อขายที่ดินจึงไปแจ้งความที่สน.พหลโยธิน เมื่อ 14 พ.ย. 2564 ดำเนินคดีกับนายบี ต่อมาเดือน ก.พ.2564 นายบีเดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจ รับทราบข้อหาในคดีร่วมกันฉ้อโกง และถูกปล่อยตัวออกมาและยังกระทำการแบบนี้อยู่อีก