จัดเป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ที่หลายคนสนใจอย่างมากมาย สำหรับเรื่องราวของดาราสาว พิ้งกี้ สาวิกา พี่ชาย และมารดา ที่ถูกตำรวจรวบคดีโกงแชร์ Forex ซึ่งศาลไม่ให้ประกันตัว ต้องนอนเรือนจำ ท่ามกลางความตกใจของแฟนๆ ที่ทราบข่าว
ซึ่งต่อมา นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักอัยการสูงสุด (อสส.) เผยความคืบหน้าคดีแชร์ฟอเร็กซ์ ว่า อัยการคดีพิเศษ 4 แนะนำให้กรมสอบสวนคดีพิเศษออกหมายเรียกผู้ต้องหาอีก 16 คน มาสอบสวนดำเนินคดี ซึ่งในจำนวนนี้มี ดีเจแมน และใบเตย อาร์สยาม รวมอยู่ด้วย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด ทางใบเตย และดีเจแมน ได้ออกมาไลฟ์สดถึงประเด็นดังกล่าวแล้วว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับคดีหลอกลงทุนแชร์ลูกโซ่ FOREX-3D เพราะเป็นเพียงผู้ลงทุนเท่านั้น ไม่ได้ไปหลอกลวงใครให้มาลงทุน และพร้อมให้ความร่วมมือกับอัยการและดีเอสไอ หากมีการเรียกไปสอบถาม โดยจะให้ข้อมูลทุกอย่างที่ทางการต้องการ ยืนยันว่าตอนนี้ยังใช้ชีวิตปกติ ไม่ได้ถูกคุมขังเข้าไปอยู่ในเรือนจำ
ใบเตย เปิดเผยว่า “วันนี้ก็ว่างประมาณครึ่งชั่วโมง ก่อนไปเล่นงาน วันนี้อยากมาพูดคุยกับเรื่อง ปัญหาและข่าวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเมื่อวาน (วันที่ 19 ส.ค.) เห็นข่าวพร้อมทุกคนตั้งแต่วันแรกที่เกิดเรื่องในกรณีของ 19 คน และเมื่อวานเป็นส่วนของเราที่มีข่าวมา ต้องแถลงเรื่องแรกก่อนว่า ตนและดีเจแมน ไม่ได้โดนรวบ ไม่ได้โดนจับ และไม่ได้โดนอะไรเลย และตอนนี้ไม่ได้มีการสั่งฟ้องใด ๆ มาถึงเราสองคน สิ่งที่ถูกต้อง ถ้าใครได้อ่านข่าวจากท่านโฆษกเมื่อวานนี้ ก็คือจะมีการเรียกสอบสวนเพิ่ม ขอข้อมูลเพิ่มเติมจาก 14 คน ที่ลิสต์รายชื่อจากทางดีเอสไอและทางอัยการเพิ่มขึ้นมา ซึ่งก็มีชื่อเราสองคนตามที่ข่าวเขียน แต่ตอนที่ท่านโฆษกพูด ยังไม่ได้ลงชื่อว่าเป็นใครบ้าง
ซึ่งจะบอกว่าเราสองคนยินดีมาก ตอนนี้ก็เป็นขั้นตอนของกฎหมาย ของอัยการที่ต้องส่งเรื่องมาถึงเรา ต้องบอกก่อนว่า ทางอัยการเขากำลังรวบรวมหลักฐาน และข้อมูลทุกอย่างที่เห็นว่าเรามีส่วนเกี่ยวข้องจริง ๆ และก็ค่อยส่งจดหมาย หรือเรียนเชิญเรามาพูดคุย สอบสวนเพิ่ม คือเรื่องนี้เหมือนเกิดขึ้นใหม่ซ้ำเหมือนเมื่อตอนสองปีที่แล้ว หลังจากที่ตนและแมนแต่งงาน ต้องบอกทุกคนตรงนี้พอหลังจากข่าวที่เกิดขึ้น ตนรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ และทุกคนก็ตกใจมาก
แต่สำหรับตนและดีเจแมน รู้สึกว่าเรื่องนี้เหมือนสองปีที่ผ่านมา ที่เมื่ออัยการหรือดีเอสไอ ต้องการข้อมูล ต้องการตัวให้ไปยืนยันสอบสวนเพิ่ม ต้องการแหล่งที่มาที่ไปทุกอย่าง รู้หลาย ๆ อย่างจากเราเพิ่มขึ้น เรายินดีเพราะเราอยากไปแสดงความบริสุทธิ์ใจอยู่แล้ว ส่วนตนและดีเจแมนเรามีหลักฐานทุกอย่าง มีข้อมูลทางการเงินทุกอย่าง ที่ดีเอสไอเคยมีข้อมูลตรงนี้ของเราทั้งหมดอยู่แล้ว และตัวใบเตยกับพี่แมนก็มีข้อมูลหลักฐาน เป็นลายลักษณ์อักษรทุกอย่างจากตรงนี้ทั้งหมด
ใบเตย กล่าวต่อว่า ตัวดีเอสไอและอัยการเขาสืบข้อมูลทางการเงิน ข้อมูลทางทรัพย์สินทุกอย่างของผู้ต้องหา หรือผู้เกี่ยวข้องทุกคนได้ทั้งหมดด้วยทางตัวกฎหมายเองอยู่แล้ว ซึ่งเราบริสุทธิ์ใจมาก ๆ ที่จะให้เจ้าหน้าที่และทุกอย่างได้ตรวจข้อมูลของเราทั้งหมด อย่างที่เคยนำเสนอไปเมื่อสองปีที่แล้ว หลัก ๆ ไม่ได้โดนจับ ไม่ได้โดนอะไร ยังโอเคและทงานในทุกวัน แต่วันนี้ตนและพี่แมนตัดสินใจที่จะออกมาพูด เราอยากให้ประชาชนทุกคน ชาวเน็ต คนที่เกี่ยวข้องและติตามตน รวมถึงแฟนคลับที่คอยเป็นกำลังใจมาให้เสมอได้รับฟังจากปากของตนและพี่แมน ไม่มีการคลางแคลงใจใด ๆ เพราะว่า ณ วันนี้ในการที่ตนต้องทำงานทุกวัน มีเจ้าภาพ เจ้าของ ผู้ประกอบการ ทุกอย่างที่ตนรู้สึกว่าเขาก็คลางแคลงใจว่าใบเตยไม่ได้โดนรวบอย่างที่เป็นข่าวใช่ไหม ใบเตยมางานได้ใช่ไหม หรืออะไรก็ตามแต่ วันนี้จะมาบอกให้รู้และเคลียร์ให้เห็นว่ามันเป็นอย่างนี้ เป็นตามขั้นตอนของอัยการและตอนนี้ตนกับดีเจแมน ชีวิตปกติดี ตอนนี้ก็รอแค่ทางอัยกรหรือดีเอสไอติดต่อมา ส่งจดหมายมาอีกรอบ เพื่อที่จะให้เราเข้าไปคุยกับข้อมูลเพิ่มเติมที่ทางดีเอสไอและอัยการอยากได้จากเราตอนนี้ ทุกคนก็รู้แล้วว่าเรายังปลอดภัย ไม่ได้โดนรวบ ไม่ได้มีการเข้าไปในเรือนจำ ไม่ได้มีการโดนสั่งฟ้อง
ใบเตย กล่าวอีกว่า อย่างที่สองที่อยากเคลียร์กับทุกคน ด้านตัวของใบเตยโดยตรง ตนไม่ได้เป็นผู้ลงทุน ไม่ได้เป็นแม่ข่ายใด ๆ เลย ไม่เคยเชิญชวนใคร และที่สำคัญไม่ได้มีชื่ออยู่ในบริษัท Forex-3D หรือว่ามีชื่ออยู่ในเจ้าของกิจการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Forex-3D ทั้งสิ้น ซึ่งเราเสียใจกับข่าวที่นำเสนอไป มันก็ส่วนทำให้เราสองคนเสียหาย หลัก ๆ มันเป็นความรู้สึกของคนที่อยู่รอบตัวเรา ที่คลางแคลงใจในตัวเรา ว่าใบเตยกับดีเจแมนทำแบบนี้จริง ๆ เหรอ มีความครึ่ง ๆ กลาง ๆ ไม่มั่นใจในตัวเรา หรือเราสองคนต้องทำงานที่ตนได้บอกไปว่ามีเจ้าภาพ ผู้ประกอบ มีเจ้าของกิจการ ที่มั่นใจในตัวเรา พอมาเกิดข่าวนี้ขึ้น ทุกคนก็กลายเป็นคลางแคลงใจ ไม่มั่นใจในตัวเราว่าจะไปงานได้ไหม
ด้าน ดีเจแมน เปิดเผยว่า สำหรับเรื่องการสอบสวน เมื่อสองปีที่แล้วตนและใบเตยก็ได้เห็นในข่าวแล้ว ก็ย้อนไปดูได้ เราได้พูดความจริงไปหมดแล้ว เปิดเผยไปหมดแล้ว ซึ่งวันที่เราเข้าไปพบดีเอสไอ เราได้เข้าไปตั้งแต่เช้า ออกมาประมาณ 2-3 ทุ่ม เราใช้เวลาทั้งวันเหมือนคนอื่นปกติ เขาสงสัยอะไร แผนผังต่าง ๆ เราก็เป็นคนบอกทั้งหมดว่า เราเกิดขึ้นยังไง รู้จักยังไง เจอกันยังไงจนหมดเปลือก พร้อมสเตตเมนต์ย้อนหลังหลายปีมาก
ดีเจแมน ได้ย้ำอีกว่า ใบเตยยิ่งไม่เกี่ยวข้องร้อยเปอร์เซ็นต์เลย อันนี้ไม่ได้เข้าข้างเมีย ซึ่งหากใครยังไม่ได้ดูข่าว ก็จะบอกในวันนี้ ว่ารูปถ่ายกับซีอีโอคนนั้นมีจริง ในฐานะเพื่อนที่เข้ามารู้จักกัน รายละเอียดเราบอกทั้งดีเอสไอและบอกทั้งผู้ชมที่ต้องการรู้ไปหลายรายการมาก เมื่อสองปีที่แล้ว คือในฐานะคนที่รู้จัก และนอกนั้นเป็นคนลงทุนเองด้วย อาจมีภาพต่าง ๆ เราอธิบายได้หมดทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนโซเชียล ตอนที่เรื่องสินสอดอะไรต่าง ๆ ดีเอสไอเขาก็ตรวจสอบ ถ้าคนอยากรู้คือมันไม่มีจริง ๆ นะ ถ้ามี ตนไม่ได้มานั่งตรงนี้แน่นอน โดยเฉพาะตน เอาเป็นว่าเรารู้จักกันในฐานะเพื่อน และสุดท้ายเราก็เป็นผู้ลงทุน และตนก็รู้พร้อมทุกคนในวันที่เขาโดนออกหมายจับว่าเขาทำเรื่องแบบนี้ ทำให้เกิดความเสียหายเยอะแยะขนาดนี้ เราก็เสียใจ
ดีเจแมน กล่าวอีกว่า ผู้จัดน่ารักมาก โทรฯ มาด้วยความเป็นห่วง แมนจะมาถ่ายละครให้เขาได้ไหม ตนก็บอกว่าได้ มันจะเป็นแบบนี้เกือบ 90 เปอร์เซ็นต์เลย เพราะทุกคนก็เสพข่าว แต่เรื่องเสียใจหนึ่งเรื่องที่ใบเตยบอก คือเรื่องที่คนอื่นคลางแคลงใจเรา ส่วนอีกเรื่องที่สำคัญมาก คือตนไม่เคยนิ่งนอนใจหลังจากที่ไปรายการ ตนดูข่าวทุกวัน ข่าวนี้อยู่ในสมองตนทุกคืน ตนคอยติดตามตลอด มีผู้เสียหายหลายเรื่อง ทุกข์ทรมาน เราก็รู้สึกมันเป็นความรู้สึกผิดสำหรับผม ว่าต่อไปนี้การที่ตนไปไหน ทำอะไรต้องดูคนให้มากกว่านี้ ตนรู้สึกเห็นใจสำหรับผู้หายหลายคนที่โดนหลอกมาจากใครก็ไม่รู้ เราก็ดีใจที่ไม่เคยชวนใคร ตอนนี้เราสบายใจ ดีเอสไอก็รู้ ตำรวจก็รู้ เพราะตนไม่เคยชวนใครจริงๆ วันนี้เราไม่ได้ออกมาแก้ต่าง เราออกมาพูดความรู้สึกจริงๆ ของเราให้ได้ฟังว่า ตอนนี้เพื่อนเรายังไลน์มาไม่หยุดเลย ด้วยความเป็นห่วง
“ขอบคุณทุกคนที่รักเราจริงๆ ใครที่มองเราไม่ดีก็แล้วแต่ แต่วันนี้เราไม่ได้ออกมาพูดเพื่ออะไรทั้งนั้น เพราะเราบริสุทธิ์ เราถึงกล้ามานั่งตรงนี้ แต่เราแค่รู้สึกว่ามันมีข่าวออกมาว่าจะโดน มันดูน่ากลัวมากสำหรับคนรอบตัว และคนรอบข้าง ส่วนตัวไม่ได้กลัว แต่กลัวคนที่จ้างงานจะรู้สึกผิด จะรับได้หรือไม่ จะถูกจับวันไหน ซึ่งมันดูเป็นเหมือนผู้ต้องหา และดูรุนแรงมาก ตอนนี้ทางครอบครัวเป็นห่วงมาก และตอนนี้ลูกสาวก็เริ่มรู้เรื่องแล้ว และที่ต้องรีบตัดสินใจออกมาพูด ก็เพราะอาจจะมีผลในอนาคตกับลูก เช่น ถ้าลูกถูกแซวก็เกิดเป็นปมในใจเด็ก ผมจึงเป็นห่วงตรงนี้มาก”
นอกจากนี้อยากฝากเรื่องคอมเมนต์ด้วย เพราะเราอาจจะฟ้องคนกลับด้วยในคอมเมนต์ในเชิงไม่เหมาะสม ไม่สุภาพ จนทำให้เดือดร้อนมาถึงเราและครอบครัว เราต้องมีวิจารณญาณในการเสพข่าวตั้งแต่ยังไม่รู้เรื่องจริงๆ เรามีทนาย เราสามารถเช็กได้ว่าใครเป็นคนคอมเมนต์ที่หยาบคาย ไม่สุภาพ และไม่เป็นความจริง เพราะฉะนั้นต้องระวังให้มากๆ เสพข่าวอย่างมีสติ รับว่าตกใจมาก และขอแสดงความเสียใจกับทุกคนด้วย ซึ่งแต่ก่อนยังไม่ทราบอะไรเลยไม่อยากออกมาพูดเยอะ ไม่ทราบว่าใครเล่นบ้าง และลงทุนไปเท่าไหร่ เรามารู้พร้อมกันในวันที่เกิดเรื่องแล้ว และยืนยันว่าเราไม่ทราบจริงๆ ว่ามีคนโดนให้ลงทุน และมีเครือข่ายมากขนาดนี้ เสียใจมากๆ ที่เกิดขึ้นกับผู้เสียหาย ส่วนรูปที่นั่งโต๊ะเคยชี้แจ้งไปแล้ว แต่ก็ยังมีบางสื่อนำไปเล่นอยู่ ฝากบอกสื่อด้วยว่า วันที่ไปประชุมก็เขียนแคปชั่นระบุไว้อยู่แล้วว่ามันคือถั่งเช่า พร้อมกับเล้าไปแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
ส่วนเรื่องโกคาร์ท วันนั้นผมไปเที่ยวเชียงใหม่คนเดียว แต่วันนั้นทาง CEO และเลขาฯ ชวนไปขี่โกคาร์ท พอไปขี่ด้วยกัน ก็ถูกชักชวนให้ไปเป็นประธานเปิดให้ เพราะเขาอ้างว่ายังดูเด็กมาก รู้สึกไม่มีอำนาจพอที่จะไปเปิด พอเราไปก็เจอนักแสดง ศิลปิน นักร้องที่เขาจ้างไปวันนั้น ซึ่งหลังจากนั้นทาง DSI ได้ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างระเอียดแล้ว ผมก็ไม่ได้มีรายชื่อเกี่ยวข้องในการรับเงิน และไม่ได้เป็นเจ้าของที่นั้นเลย และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการลงทุนด้วย
ตอนนี้รู้สึกสบายใจมากที่ได้แถลงกันเอง ทุกคนได้ฟังจากปากของเราสองคน เราบริสุทธิ์ใจ และยินดีที่จะพูดให้ทุกคนได้ฟังกับเรื่องจริงทั้งหมด และมีทุกท่านที่เป็นห่วงเยอะมาก ก็ต้องขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจ สอบถามเข้ามา และอยู่เคียงข้างมาตลอด พร้อมทั้งขอเป็นกำลังใจให้กับผู้สียหายทุกคน หลังจากนี้ก็จะมีกระบวนการยึดททรัพย์ ส่วนเรื่องราวคดีก็จะยาวหน่อย ส่วนเรื่องนี้ก็ถือเป็นบทเรียนว่าอย่าทำอะไรแบบนี้อีก ทำอะไรก็ต้องดูดีๆ ด้วย สุดท้ายหากทางอัยการส่งหมายมา ก็คงได้ไปชี้แจงที่อัยการ และคงได้แถลงข่าวในวันนั้นอีกรอบ..
ขอบคุณภาพประกอบ : bitoeyrsiam
