เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.  กล่าวถึงการลงทุนฝานสื่อออนไลน์ว่า ขอฝากเตือนการลงทุนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ควรตรวจสอบข้อมูลด้านการลงทุนและที่เกี่ยวข้องให้ดีเสียก่อน อาจถูกหลอกลวงสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง รวมถึงประชาสัมพันธ์การเตรียมตัวก่อนแจ้งความออนไลน์ โดยนายกฯ มีความห่วงใยต่อภัยการหลอกลวงผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการลอกลวงลงทุนสร้างความเสียหายให้กับประชาชนเป็นวงกว้าง พร้อมได้กำชับ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการสืบสวนสอบสวนและปราบปรามการกระทำความผิดตามขั้นตอนของกฎหมาย

 ทั้งนี้เพื่อเป็นการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พล.ต.อ.สุวัฒน์แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากกรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงไปกำกับดูแลพร้อมกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำการสืบสวนปราบปรามการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้อง กับการหลอกลวงลงทุนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ รวมถึงเป็นผู้ขับเคลื่อนศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ฯ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการแจ้งความได้อย่างสะดวก และทำการประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้แนวทางการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีให้ประชาชนรับทราบ โดยตั้งแต่เปิดศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ฯ ห้วง 1 มี.ค.-31 ก.ค.65 ทางศูนย์ฯได้รับแจ้งคดีหลอกลวงด้านการเงินรวมกว่า 31,047 เรื่อง โดยสามารถดำเนินการอายัดบัญชีไปแล้วกว่า 121 ล้านบาท เพื่อดำเนินการตามขั้นตอของกฎหมาย

รองโฆษก ตร. กล่าวอีกว่า ขอฝากเตือนถึงแนวทางการลงทุนรูปแบบต่างๆควรศึกษาทำความเข้าใจให้ดี ก่อนตัดสินใจลงทุนและพิจารณาถึงความเสี่ยงจากการลงทุนลักษณะนี้ให้มาก อย่าหลงเชื่อเพียงแค่ เข้าถึงได้ง่าย ใช้เวลาระยะสั้น แต่ได้รับผลตอบแทนที่มากและรวดเร็ว รวมถึงควรเลือกผู้ให้บริการ บริษัท หรือตัวแทนที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และขอให้ประชาชนคอยติดตามข่าวสารอยู่เสมอ เพื่อจะได้รู้ทันกลโกงของเหล่ามิจฉาชีพ โดยนักลงทุนสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตได้ที่ www.sec.or.th หรือทางแอปพลิเคชัน“SEC Check First”หากมีข้อสงสัย สามารถโทรปรึกษาได้ที่ ศูนย์บริการประชาชน ก.ล.ต. โทร 1207 อีกทั้งการแจ้งความในคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีผ่านทางศูนย์ฯควรตรวจสอบดูชื่อเว็บไซต์ของทางศูนย์รับแจ้งความให้ถูกต้องครบทุกตัวอักษร ซึ่งเว็บไซต์ของศูนย์ชื่อว่าwww.thaipoliceonline.com เพื่อเป็นการป้องกันเหล่ามิจฉาชีพที่อาจฉวยโอกาสแอบปลอมแปลงเว็บไซต์ โดยการใช้ชื่อที่คล้ายกับเว็บไซต์จริง และทางศูนย์รับแจ้งความขอให้ประชาชนเข้าไปแจ้งผ่านทางเว็บไซต์เป็นอันดับแรก เพื่อความสะดวกของประชาชนและเพื่อความรวดเร็วในการเชื่อมโยงข้อมูลคดีของเจ้าหน้าที่  รวมถึงยังสามารถเดินทางไปแจ้งกับพนักงานสอบสวนในทุกพื้นที่ทั่วะเทศได้อีกช่องทาง

พร้อมกันนี้ขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบถึงสิ่งที่ต้องเตรียมเพิ่มเติมไว้ล่วงหน้าเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการแจ้งความผ่านศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ ดังนี้

1.บัตรประจำตัวประชาชน ควรอยู่กับตัว เนื่องจากในการลงทะเบียนจะต้องกรอกข้อมูล ทั้งหมายเลขบัตรและหมายเลขหลังบัตรประชาชน เพื่อเป็นการยืนยันตัวตน

2.อีเมล ผู้แจ้งควรจะต้องมีอีเมลส่วนตัว เพราะหลังจากกรอกรายละเอียดเบื้องต้นแล้ว ระบบจะส่งรหัส OTP ผ่านทางอีเมล เพื่อจะนำมากรอกในระบบ เพื่อยืนยันตัวตนผู้แจ้ง และจะเข้าสู่กระบวนการถัดไป

3.ข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับคดี ทั้งข้อมูลส่วนตัวของผู้แจ้งและข้อมูลเกี่ยวกับผู้ต้องหาเท่าที่ทราบได้แก่ ชื่อ นามแฝง เลขบัตรประชาชน หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัญชีธนาคารที่ใช้ในการทำธุรกรรม ช่องทางติดต่ออื่น ๆ เช่น Line Facebook Instagram Twitter เป็นต้น รวมถึงรูปแบบคำโฆษณาของเหล่ามิจฉาชีพ เพื่อใช้ในการเชื่อมโยงข้อมูลคดีอื่น ๆ ที่เคยแจ้งมาก่อน และจะเป็นประโยชน์ต่อการสืบหาคนร้ายที่ทำในรูปแบบขบวนการ

 อย่างไรก็ตาม หากพบข้อขัดข้องใดๆ ก็สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วนหมายเลข 1441 หรือหมายเลขโทรศัพท์ 081-866-3000 ตลอด 24 ชั่วโมง