เมื่อวันที่ 26 ส.ค. ที่ สภ.โนนสูง ต.โนนสูง อ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.วีระพล มูลบัวภา สว.สส. สภ.โนนสูง ร.ต.อ.อุดมโชค สิงหกุลศิริ รอง สส.สภ.โนนสูง และตำรวจสืบสวนจับกุมตัว นายอุดร พันธวงษ์ หรือแบ๊งค์ อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 306/1 หมู่ 9 ชุมชนหนองเหล็ก ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี ในข้อกล่าวหา “ลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืนและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า โดยผิดกฎหมาย” พร้อมของกลาง ตู้เย็น ทีวี เครื่องปรับอากาศ ที่นอน พัดลม ตู้เครื่องแป้ง ตู้โชว์ ชุดโต๊ะไม้รับแขกและชุดโต๊ะไม้กินข้าว กระเป๋าเดินทาง

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 ส.ค. ร.ต.อ.ธีระวัฒน์ วิทยรติโชติตระกูล รอง สว.(สอบสวน) สภ.โนนสูง รับแจ้งจาก นางอุบลรัตน์ หล้าสวย อายุ 51 ปี บ้านเลขที่ 50/1 หมู่ 3 บ้านผ่านศึก 1 ต.บ้านตาด อ.เมืองอุดรธานี ว่า ถูกหลานชาย คือ นายอุดร ขโมยทรัพย์สินภายในบ้านของตนอีกหลัง เลขที่ 317 หมู่ 3 บ้านผ่านศึก 1 ต.บ้านตาด ไปจนเกลี้ยงบ้าน เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า ตู้โชว์ โซฟาเตียงนอน ตู้เสื้อผ้า ชุดโต๊ะไม้กินข้าว และโต๊ะรับแขก แม้แต่วงกบประตูหน้าต่างอะลูมิเนียม และเหล็กดัด ก็ถูกขโมยถอดเอาไปขายและจำนำเพื่อไปซื้อยาบ้าเสพ

หลังรับแจ้งช่วงเย็นวันเดียวกัน พ.ต.ท.วีระพล นำกำลังไปจับกุมตัว นายอุดร พันธวงษ์ ขณะนั่งเล่นอยู่ภายในบ้านที่เกิดเหตุ และยอมรับสารภาพว่าเป็นคนขโมยทรัพย์สินภายในบ้านของป้าแท้ๆ ของตนเอง นำไปขายและจำนำในราคาถูก เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และซื้อยาบ้าเสพวันละ 10 เม็ด โดยนำทรัพย์สินใส่รถเข็นไปขายและจำนำกับคนในหมู่บ้าน และทยอยขนออกจากบ้านใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ และนำตำรวจไปตรวจยึดของกลางที่นำไปขายและจำนำกลับคืนมาได้เป็นบางส่วน

นายอุดร กล่าวว่า สาเหตุที่ทำไปเพราะติดเสพยาบ้าวันละ 10 เม็ด และไม่มีเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เพราะไม่มีงานทำ ส่วนอาชีพตนเองเป็นช่างเชื่อมเหล็ก และช่างสักลาย ช่วงนี้ผู้รับเหมาหรือนายจ้างไม่มีงานให้ทำ ส่วนอาชีพสักลาย ไม่ได้ทำมานานแล้ว เพราะนำเครื่องมือไปขายซื้อยาบ้าเสพ รู้สึกเสียใจที่ทำผิดต่อป้าและแม่ที่อยู่ต่างประเทศ (สวีเดน) และขอชดใช้กรรมที่ก่อในคุก โดยจะรักษาตัวให้หายจากการติดเสพยาบ้า เมื่อพ้นโทษกลับออกมาจะเป็นคนดีของสังคม ก่อนที่นายอุดร จะเดินไปคุกเข่าก้มกราบเท้าขอโทษป้าทั้งน้ำตา ส่วนป้าเห็นหลานชายสำนึกผิดถึงกับน้ำตาคลอ

ด้าน น.ส.อุบลรัตน์ ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า สุดทนต่อกับพฤติกรรมหลานชายคนนี้แล้ว หลังจากได้โทรศัพท์ปรึกษากับน้องสาว ที่มีครอบครัวใหญ่อยู่ที่ประเทศสวีเดน และเป็นแม่ของหลานชาย เนื่องจากบ้านหลังนี้เป็นเงินของน้องสาวที่ให้ตนซื้อและเป็นชื่อของตน รวมทั้งทรัพย์สินต่างๆ ที่หลานชายนำไปขายและจำนำ ก็เป็นเงินของน้องสาวโอนมาให้ตน ซื้อบ้านไว้เวลาน้องสาวกลับมาพักผ่อนที่บ้านเกิด และให้นายอุดร ลูกชายคนโตของน้องสาวมาพักอาศัย ได้ประมาณ 5-6 เดือน เนื่องจากไม่มีที่อยู่ หลังจากหลานชายแยกทางกับภรรยา ก่อนมาก่อเหตุขโมยทรัพย์สินภายในบ้านจนเกลี้ยงรวมมูลค่าประมาณ 3 แสนบาท

“ที่ให้หลานชายมาอยู่บ้านหลังนี้ เพราะสงสาร หากหลานชายยังมีพฤติกรรมแบบนี้ ตนและแม่ของเขาก็คงรับไม่ได้และได้ปรึกษากันแล้วว่า ครั้งนี้จะไม่ให้อภัยเพราะเขาเคยทำแบบนี้มาตั้งแต่เป็นเยาวชน แต่ครั้งนี้หนักสุดถึงขั้นทยอยขนทรัพย์สินในบ้านไปขายจนเกลี้ยง และให้เขาไปดัดนิสัยอยู่ในคุกและบำบัดรักษาให้หายจากการติดยาบ้า เผื่อเขาพ้นโทษกลับออกมาแล้วจะเป็นคนดีของครอบครัวและสังคมต่อไป และอยากฝากถึงผู้ปกครองให้สอดส่องดูแลบุตรหลานให้ห่างไกลจากยาเสพติดและขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปราบปรามอย่างจริงจัง และเพิ่มโทษความผิดให้มากหรือหนักกว่านี้ เพื่อให้ผู้หลงผิดได้หลาบจำไม่กล้ากลับมาทำผิดซ้ำอีก” น.ส.อุบลรัตน์ กล่าว