เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา มีฝนตกหนักนานกว่า 7 ชม. ทำให้ชุมชนตำบลเกาะเกร็ด จ.นนทบุรี ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักมีน้ำท่วมขังสูงกว่า 30 ซม. ชาวบ้านย้ายของขึ้นที่สูงไม่ทัน

โดยผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 71/2 ต.เกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นโรงงานเครื่องปั้นดินเผาเก่า และมีบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ 2 ชั้น ตั้งอยู่ใกล้เคียงริมแม่น้ำเจ้าพระยา ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักนานกว่า 7 ชม. จึงทำให้ภายในโรงงานและในบ้านมีน้ำท่วมขังสูงถึง 30 ซม. ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าและรถ จยย.ที่จอดอยู่ภายในโรงงานได้รับความเสียหายเนื่องจากย้ายหนีน้ำไม่ทัน

จากการสอบถามนางสุดจิต เจริญกุล อายุ 71 ปี เจ้าของบ้านดังกล่าว เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.40 น. ตนนอนดูข่าวทีวีอยู่ชั้น 2 ในบ้านปกติ สักพักเพื่อนบ้านได้โทรหาตนแล้วบอกกับตนว่า น้ำท่วมเข้าไปในบ้านกับหน้าโรงงานแล้ว จึงตกใจรีบวิ่งลงมาดูที่ชั้นล่างพบว่าน้ำท่วมเข้ามาภายในบ้าน มีผ้าขี้ริ้วกว่า 10 ผืน ไม้กวาด รองเท้าแตะ ลอยอยู่ภายในบ้าน ตนจึงรีบเดินไปที่ตู้เย็นเนื่องจากน้ำท่วมเข้าเครื่องคอมตู้เย็น

จากนั้นตนเอามือหยิบผ้าที่ลอยบนน้ำอยู่หน้าตู้เย็น เพื่อจะเก็บปรากฏว่า ไฟได้ดูดมือจึงเอามือออกมาแล้วปีนไปดึงปลั๊กไฟตู้เย็นออก ซึ่งตอนแรกไม่รู้เลยว่าน้ำเข้าบ้าน มันมาแบบไม่ได้ตั้งตัวเลย ตนอายุ 70 กว่าแล้ว ขาก็จะเดินไม่ไหว หากไม่มีเพื่อนบ้านโทรฯมาก็คงเสียหายมากกว่านี้ ตอนนี้ก็มีตู้เย็นที่น่าจะเสียไปแล้วกับ จยย.ของหลาน ซึ่งให้เพื่อนบ้านช่วยนำออกไปจอดในพื้นที่สูง ตนรู้สึกเบื่อที่เจอน้ำท่วมเกือบทุกปี ไม่ว่าจะนายกฯ คนไหนน้ำก็ท่วมตลอด.