เมื่อวันที่ 28 ส.ค. นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกระแสข่าวการยุบสภาในขณะนี้ว่า การยุบสภาเป็นเรื่องของผู้มีอำนาจจะตัดสินใจ ขณะนี้อำนาจการยุบสภาอยู่ในมือของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ว่าจะตัดสินใจใช้อำนาจยุบสภาหรือไม่ อย่างไรก็ดี การยุบสภาโดยทั่วไปมักเกิดขึ้นจากปัจจัย 3 ประการคือ 1.สภากับรัฐบาลมีปัญหาขัดแย้งกันอย่างรุนแรง 2.กฎหมายสำคัญไม่ผ่านสภา หรือนายกรัฐมนตรี ถูกลงมติไม่ไว้วางใจจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และ 3.มีปัญหาภายในพรรคร่วมรัฐบาล จนไม่สามารถอยู่ร่วมรัฐบาลกันต่อไปได้

นายองอาจ กล่าวต่อว่า เมื่อพิจารณาสถานการณ์ในปัจจุบันพบว่า สภากับรัฐบาลไม่มีปัญหาขัดแย้งกัน ขณะที่กฎหมายสำคัญคืองบประมาณก็ผ่านสภาแล้ว นายกรัฐมนตรีก็ผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และไม่มีปัญหาภายในพรรคร่วมรัฐบาล

ขณะเดียวกันรัฐบาลก็คงต้องการทำหน้าที่ให้ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปคให้ดีที่สุด พร้อมทั้งใช้เวลาที่เหลืออยู่ก่อนที่สภาจะครบวาระในเดือน มี.ค. 2566 เพื่อแต่งตั้งโยกย้าย กระชับอำนาจให้เรียบร้อย รวมถึงการบริหารจัดการงบประมาณให้เป็นไปตามเป้าหมายเพื่อสร้างผลงาน ดังนั้นเมื่อพิจารณาจากเงื่อนไขปัจจัยต่างๆ แล้ว จึงเชื่อว่า การยุบสภายังไม่น่าเกิดขึ้นในขณะนี้ ตนเชื่อว่ารัฐบาลจะบริหารราชการแผ่นดินไปจนครบวาระ หรืออาจยุบสภาก่อนสภาใกล้ครบวาระ เพื่อใช้เวลาที่เหลืออยู่ทำงานให้เกิดประโยชน์สุขกับประชาชนให้ได้มากที่สุดต่อไป.