เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 2 ก.ย. ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รมว.กลาโหม เดินทางถึงวัดกษัตราธิราชวรวิหาร พร้อมด้วย พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. พล.ท.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง แม่ทัพภาคที่ 1 เพื่อตรวจเยี่ยมรับฟังสถานการณ์การเตรียมการ การแก้ไข รวมถึงปัญหาข้อขัดข้องในการช่วยเหลือประชาชน และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ทำพนังกั้นน้ำ พร้อมมอบน้ำและเครื่องดื่ม โดยเป็นกำลังพลจากกองพันทหารม้าที่ 11 กรมทหารม้าที่ 4 กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ รับผิดชอบงานติดตั้งพนังกั้นน้ำและสเตนเลส สูง 2.2 เมตร ยาว 260 เมตร รวมถึงวางแนวกระสอบทรายอีก 6,300 กระสอบ

เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางถึงวัดกษัตริยารามราชวรวิหาร ได้เข้าสักการะพระพุทธกษัตราธิราช ซึ่งเป็นพระประธานที่ประดิษฐานภายในพระอุโบสถ และห่มผ้าพระพุทธชนะมาร นอกจากนี้ยังเข้าสักการะพระพุทธกษัตราภิมงคล ซึ่งเป็นพระที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จฯ ประกอบพิธีเททอง เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2519 โดยมีพระราชธานินทราจารย์ เจ้าอาวาสวัดกษัตราธิราชวรวิหาร (พระอารามหลวง) พาเดินดูสถานการณ์น้ำด้านหลังวัดที่เพิ่มสูงขึ้นริมแม่น้ำเจ้าพระยา

ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ เดินมาถึงจุดที่เจ้าหน้าที่ทหารกำลังเตรียมกระสอบทราย เพื่อทำพนังกั้นน้ำพร้อมกล่าวให้กำลังใจ ว่า “เห็นสถานการณ์น้ำแล้วน่ากลัว ถ้าเทียบกับปีที่แล้วน้ำมาเร็วกว่า เพราะปีที่แล้วน้ำมาในเดือน ก.ย.นี้ มีการปล่อยน้ำแล้ว 1,800 ลูกบาศก์เมตร ขออยู่ดูแลให้ดี ช่วยกัน”

พล.อ.ประยุทธ์ ยังสอบถามอีกว่า ชาวบ้านมีการเตรียมตัวกันพร้อมแล้วหรือยัง เป็นห่วงทุกพื้นที่ ไปดูตรงไหนก็ห่วงตรงนั้น ก่อนที่จะสอบถามกำลังพลที่มาจาก จ.บุรีรัมย์และหนองบัวลำภู ว่า “รู้ใช่หรือไม่ เป็นทหารได้อะไร ได้ความรู้ การเรียนรู้ต่างๆ อะไรที่ดีๆ วันหน้าได้เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี”

จากนั้นเดินไปบริเวณท่าน้ำของวัด เพื่อดูปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น พร้อมกล่าวว่า ทั้งตะวันตกและตะวันออกป้องกันให้ได้ เพราะมีเขตอุตสาหกรรมด้วย พร้อมกันนี้ยังย้ำว่าให้ดูงานดูแผนให้ดี ตามแผนงานจัดการน้ำ 13 มาตรการ

ทั้งนี้ก่อนขึ้นรถผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า ได้ลงนามเอกสารชี้แจงศาลรัฐธรรมนูญแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ข่าวเขาว่าอย่างนั้น ไม่ใช่หรือ”

ขณะที่นายวีระชัย นาคมาศ ผวจ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้สอบถามถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่พระนครศรีอยุธยา ซึ่งตนได้ตอบว่าขณะนี้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น และน่าเป็นห่วง เนื่องจากเขื่อนเจ้าพระยาปล่อยน้ำมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้รถยนต์ยี่ห้อ Toyota Land Cruiser ทะเบียน 4 กษ 3082 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถยนต์ของกระทรวงกลาโหม ขณะเดียวกันบริเวณหน้าวัดยังมีชาวอยุธยามาถือป้ายให้กำลังใจ โดยมีข้อความระบุว่า “อยุธยารักลุงตู่ ลุงตู่อยู่ยาว ชาวอยุธยาขอเป็นกำลังใจให้ลุงตู่สู้ๆ” แต่โดนเจ้าหน้าที่ปิดกั้นไม่ให้เข้าไปพบ ซึ่งชาวบ้านโวยวายว่า “ทำไมไม่ให้พบลุงตู่”

กระทั่งเวลา 09.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางถึงพระเจดีย์ศรีสุริโยทัย ตรวจเยี่ยมรับฟังสถานการณ์น้ำท่วม พร้อมให้กำลังใจแรงงาน และกำลังพลที่ทำพนังกั้นน้ำ โดย พล.อ.ประยุทธ์ แตะบ่าให้กำลังใจ พร้อมให้กำลังใจว่า “เหนื่อยแต่เป็นการทำเพื่อคนอื่น ทำให้ประชาชน ตัวเราลำบากก็ต้องลำบาก” พอพูดมาถึงจุดนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้มือตบอกตัวเอง

ทั้งนี้ในช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้กอดคนงานผู้ชาย และหันมาพูดว่า “กอดแต่ผู้หญิงเดี๋ยวผู้ชายจะน้อยใจ อย่าทำอะไรให้เจ็บตัวเอง อันตรายให้ระมัดระวัง ทำงานเต็มที่ แต่ต้องปลอดภัย”

ต่อมาเวลา 10.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางถึงยังพระตำหนักสิริยาลัย ต.ประตูชัย เพื่อให้กำลังใจกำลังพลว่า กำลังพลทหารที่มาเป็นทั้งลูกหลาน และสามี มาช่วยเหลือประชาชน สิ่งเดียวที่จะทำให้พวกเขาภูมิใจคือทำงานในหน้าที่ เราทำสำเร็จปลอดภัยประชาชนมีความสุข แค่นั้น คือความภาคภูมิใจของเหล่าทัพ ท่านคือหัวใจของประชาชน.