จากกรณีเกิดเหตุตำรวจ สภ.บางบัวทอง รับแจ้งเหตุคอมพิวเตอร์ในห้องเรียนระเบิด ทำให้มีนักเรียนได้รับบาดเจ็บ 1 ราย โดยผู้บาดเจ็บคือน้องโชค นักเรียนชายชั้น ม.3 อายุ 15 ปี ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า คิ้วซ้ายมีบาดแผลแตกลึกเห็นกระดูก ยาวประมาณ 3-4 เซนติเมตร อาการสาหัส กู้ภัยช่วยปั๊มหัวใจแต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ เสียชีวิตในเวลาต่อมา กระทั่งสุดท้ายเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้เกิดจากคอมพ์ระเบิด หรือคีย์บอร์ดแต่อย่างใด แต่เกิดจากการถูกยิงตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 16 ก.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดลาดปลาดุก ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี สอบถามพระคำนึง นิมมะโล พระลูกวัดผู้อุปถัมภ์เลี้ยงดูน้องต้า ส่งเสียให้ค่าเล่าเรียนหนังสือ และเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นเจ้าของอาวุธปืนไทยประดิษฐ์

ญาติเชิญวิญญาณนร.ชายม.3 หลังเพื่อนทำปืนลั่นใส่เสียชีวิต

พระคำนึง กล่าวว่า ทางด้านแม่ของน้องต้า ได้พาน้องต้า มาฝากไว้กับตนตั้งแต่น้องต้าอายุ 8-9 ขวบ เหตุผลที่เอามาฝากเลี้ยงดู เพราะว่ามีฐานะยากจน ไม่มีเงินส่งเสียให้เรียนหนังสือ ตนรับมาเลี้ยงก็ได้ส่งเสียค่าเรียนหนังสือ ช่วงหลังๆ ที่ผ่านมา น้องต้าไม่ได้เข้ามานอนที่วัดเป็นประจำ มีไปนอนบ้านเพื่อนบ้าง ตอนนี้ก็น่าจะเช่าบ้านอยู่กับแฟนของเขา ปกติแล้วน้องต้าเป็นคนว่านอนสอนง่าย ไม่ได้เกเรอะไร แต่เรื่องเรียนตนไม่ทราบว่าน้องต้าขาดเรียนบ่อย เพราะน้องต้าก็แต่งตัวไปเรียนทุกวัน

“ตอนนี้ก็เสียใจทั้งสองฝ่ายที่สูญเสียลูกไป ส่วนต้าก็เสียใจที่เขาเลือกทางเดินที่ผิด ก็อยากให้คิดใหม่ ถ้าออกมาก็ปรับตัวทำตัวให้ดีขึ้นให้เป็นคนดีและเป็นแบบอย่างของสังคม” พระคำนึง กล่าว

พระคำนึง กล่าวต่อว่า ส่วนทางด้านของคดีความที่มีข่าวออกไปว่าเป็นปืนของตนไม่เป็นความจริง ที่ข่าวมันออกไปแบบนั้น อาจจะเป็นเพราะว่าน้องต้าอาจจะรู้สึกกลัว หรือตกใจอยู่ นึกอะไรไม่ออก ก็นึกถึงตนจึงพูดแบบนั้นออกไป ตนก็ให้อภัยไม่ได้คิดแค้นอะไรกับน้องต้า พอทางตำรวจสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงปรากฏว่า เป็นปืนของเพื่อนน้องต้า

“ช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมา ตนเครียดมากจนนอนไม่หลับยันตี 2 ครึ่ง รวมถึงญาติของอาตมาก็รู้สึกเครียด แม้กระทั่งญาติโยมที่รู้จะก็โทรฯ มาหาพลอยเครียดไปด้วย ปกติตนก็ไม่เคยมีประวัติเรื่องปืน และไม่ชอบพวกอาวุธปืนพวกนี้อยู่แล้ว หลังจากนี้ เห็นทางแม่ของน้องต้า ก็มาพูดคุยกับตนว่า หลังศาลตัดสินหรือปล่อยตัวออกมา ก็จะพาน้องต้าไปอยู่กับลุงที่จังหวัดราชบุรี” พระคำนึง กล่าว