เมื่อวันที่ 20 ก.ย. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความระบุว่า คดีโรงพัก กับ คดีจำนำข้าว ความเหมือนที่แตกต่าง

ศาลมีคำพิพากษายกฟ้องคุณสุเทพ เพราะเห็นว่า เป็นเพียงรองนายกฯ ผู้กำกับดูแลนโยบาย ครม. อนุมัติโครงการนี้เพียงหลักการเฉพาะเรื่อง “เปลี่ยนรูปแบบการลงทุน” ส่วนวิธีการจัดจ้าง เป็นเรื่องของหัวหน้าส่วนราชการเป็นผู้ให้ความเห็นชอบ อีกทั้ง คุณสุเทพมีหน้าที่เพียง “กำกับดูแลนโยบาย” โดยทั่วไป การเซ็นอนุมัติรวมสัญญาตามที่ สตช. เสนอมาก็ไม่ต้องผ่าน ครม.

สรุปยกฟ้อง ไม่ผิด ม.157 ส่วนจำเลยอื่นไม่ปรากฏว่าใช้อำนาจครอบงำสั่งการให้เสนอขอเปลี่ยนแปลงวิธีจัดจ้าง หรือมีวิธีการที่มิชอบอื่นๆเมื่อคำพิพากษามาเป็นแบบนี้ ก็ต้องยอมรับ เพียงแต่ทำให้ผมหวนคิดถึง “คดีจำนำข้าว” ของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เป็นผู้ “กำกับดูแลนโยบาย” เช่นกัน แค่คิดเปรียบเทียบเท่านั้น เพราะผมเป็นคนโง่เขลาเบาปัญญา ไม่ได้รู้เรื่องกฎหมายอะไรลึกซึ้ง อย่าคิดว่าผมไปเข้าข้างใคร บาปกรรมตาย

ระหว่าง คดีโรงพัก กับ คดีจำนำข้าว คดีหนึ่งไม่พบหลักฐานการทุจริต อีกคดีหนึ่งพบหลักฐานการทุจริต แต่ก็เป็นเพียงผู้กำกับดูแลนโยบาย และไม่พบว่าใช้อำนาจครอบงำสั่งการให้มีการทุจริตเหมือนกัน

ผมหมายถึงระดับ นายกฯ และรองนายกฯ นะครับ  แม้ความเสียหายจะมีตัวเลขที่แตกต่างกัน แต่จะเสียหายเงินหลวง บาทนึง หรือเป็นหมื่นล้าน ผิดคือผิด ถูกคือถูก ประชาชนอย่างผมก็คิดได้เท่านี้

มิน่าเล่า ผมถึงไม่รุ่งทางการเมืองเหมือนคนอื่นเขา