เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทุกภาคส่วนใน จ.กาฬสินธุ์ ยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด หลังหลายพื้นที่เริ่มได้รับผลกระทบจากอิทธิพลพายุ “โนรู” ที่ฝนตกติดต่อกันมานานกว่า 2 วัน ส่งผลให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆ สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำขนาดกลางทั้ง 17 อ่างของ จ.กาฬสินธุ์ ล่าสุดพบว่ามี 6 แห่ง มีปริมาณน้ำเกินความจุระดับกักเก็บ 100 เปอร์เซ็นต์ เริ่มล้นต้องปักธงแดงแจ้งเตือน พร้อมเร่งระบายน้ำ

นายทรงพล ใจกริ่ม ผวจ.กาฬสินธุ์ มอบหมายให้ นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วย นายธนทร ศรีนาค หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.กาฬสินธุ์ นายสุนทร เจริญพันธ์ นายกเทศมนตรีตำบลห้วยโพธิ์ เจ้าหน้าหน้าที่โครงการชลประทานกาฬสินธุ์ ผู้นำชุมชุมชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบระดับน้ำติดตามความพร้อมรับมือพายุโนรูที่เข้าสู่ จ.กาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบอ่างเก็บขนาดกลางที่ อ่างเก็บน้ำห้วยโพธิ์ ต.ห้วยโพธิ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็น 1 ใน 6 อ่าง จากทั้งหมด 17 อ่าง ขนาดกลาง ที่มีปริมาณน้ำเกินระดับกักเก็บมากกว่า 100% โดยขณะนี้อ่างห้วยโพธิ์มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 105% หรือประมาณ 2.5 ล้าน ลบ.ม. จากความจุกักเก็บ 2.4 ล้าน ลบ.ม. อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้พร่องน้ำลงสู่ลำน้ำปาว วันละ 3.8 แสน ลบ.ม. และจากการติดตามสถานการณ์ยังไม่มีผลกระทบต่อพื้นที่ทางการเกษตร และยังมีความแข็งแรงทนทานรองรับปริมาณน้ำที่จะเข้ามาเพิ่มได้อีก

ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่ปัจจุบันมีปริมาณน้ำเกินความจุมากกว่า 100 เปอร์เซ็นต์อีก 5 แห่ง ประกอบด้วย อ่างเก็บน้ำห้วยสังเคียบ อ่างเก็บน้ำห้วยจาน อ่างเก็บน้ำหนองหญ้าปล้อง อ่างเก็บน้ำหนองหมาจอก และอ่างเก็บน้ำหนองบ้านสา ยังไม่ถึงขั้นวิกฤติ เนื่องจากยังมีความมั่นคงแข็งแรงและยังสามารถพร่องน้ำลงสู่แม่น้ำธรรมชาติได้ และยังไม่มีผลกระทบกับพื้นที่การเกษตร รวมทั้งบ้านเรือนประชาชน

นอกจากนี้ นายศุภศิษย์ พร้อมคณะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ติดตามระดับน้ำที่ลำน้ำชี บ้านโนนแดง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ พบว่ายังต่ำกว่าตลิ่งซึ่งจุดดังกล่าวเป็นจุดโค้งของกระแสน้ำ ทำให้เกิดการกัดเซาะถนน ชาวบ้านได้ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นกันนำไม้ยูคาลิปตัส มาเป็นเสาหลักก่อนจะขึงสแลน เพื่อลดความแรงของกระแสน้ำที่เข้ากัดเซาะตลิ่งได้ ระหว่างจะมีการซ่อมแซมตลิ่งอย่างถาวร นอกจากนี้ทางอำเภอและท้องถิ่นได้มีการเตรียมเครื่องสูบน้ำ เพื่อระบายน้ำจากบ้านเรือนประชาชนอย่างทันท่วงที พร้อมได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ติดตาม ตรวจสอบเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และดูแลประชาชนให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดหากมีสถานการณ์อุทกภัย สามารถย้ายไปยังจุดพักพิงได้ทันที.