สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ว่า นายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) กล่าวว่า การที่รัสเซียยึดครองพื้นที่ขัดแย้ง 4 แห่งของยูเครน ได้แก่ โดเนตสก์ ลูฮันสก์ ซาโปริชเชีย และเคียร์ซอน “ไม่ถือเป็นการดำเนินการตามกฎหมายระหว่างประเทศ” และ “สมควรได้รับการประณาม”


เลขาธิการยูเอ็น กล่าวต่อไปว่า “สิ่งที่เรียกว่าการลงประชามติ” เกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศของการสู้รบ ในพื้นที่ซึ่งอยู่ภายใต้เขตอิทธิพลทางทหารของรัสเซีย แต่ไม่ได้อยู่ภายในกรอบรัฐธรรมนูญและกฎหมายของยูเครน จึงไม่สามารถสรุปได้ว่า การหยั่งเสียงที่เกิดขึ้นนั้น เป็นไปตามความต้องการที่แท้จริงของประชาชนในพื้นที่ พร้อมทั้งยืนยันว่า สหประชาชาติมีความเคารพในอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน “ในส่วนที่ได้รับการยอมรับตามกฎหมายระหว่างประเทศ”


ขณะที่ สำนักงานคณะผู้แทนถาวรรัสเซียประจำยูเอ็น ซึ่งเป็น 1 ใน 5 ประเทศสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) ด้วย ออกแถลงการณ์ “เสียใจเป็นอย่างยิ่ง” ต่อการแถลงของเลขาธิการยูเอ็น ซึ่งยังคงมองเฉพาะในมุมเดียวกับโลกตะวันตก ด้านนายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน ยืนยันว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน จะลงนามในกฤษฎีการับรองดินแดนทั้ง 4 แห่ง ซึ่งคิดเป็นอาณาเขต 15% ของยูเครน เป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ในวันศุกร์ที่ 30 ก.ย.นี้ ตามเวลาท้องถิ่น


อนึ่ง พื้นที่ทั้ง 4 แห่งจัดการลงประชามติ ระหว่างวันที่ 23-27 ก.ย. ที่ผ่านมา ปรากฏว่า “คะแนนเสียงท่วมท้นมากกว่า 90%” ว่าต้องการเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย

นายดมิโทร คูเลบา รมว.การต่างประเทศยูเครน กล่าวว่า รัฐบาลเคียฟไม่มีทางยอมรับผลการลงประชามติครั้งนี้ และขอเตือนว่า การดำเนินการดังกล่าวมีแต่จะบ่อนทำลายสันติภาพ เนื่องจากยูเครนจะเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารเพื่อกระชับพื้นที่คืนต่อไป พร้อมทั้งเรียกร้องตะวันตกยกระดับมาตรการคว่ำบาตร “เพื่อลงโทษ” รัฐบาลมอสโก.

เครดิตภาพ : REUTERS