จากกรณีองค์พระธาตุเจดีย์วัดศรีสุพรรณ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ อายุกว่า 500 ปี เกิดรอยแตกร้าวขนาดใหญ่เป็นแนวดิ่งทั้ง 4 ด้าน โดยภายหลังพบว่า มีน้ำฝนไหลซึมเข้าไปข้างใน จนเกิดการทรุดตัวยุบเอียงไปทางอาคารเรียนโรงเรียนเทศบาลวัดศรีสุพรรณ และพังถล่มลงมา จนชาวบ้านพากันหวั่นว่าจะเกิดอาเพศนั้น
-เปิดวินาทีระทึก! พระธาตุเจดีย์อายุกว่า 500 ปี พังครืนถล่มพังยับ กลางเมืองเชียงใหม่

ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 ก.ย. โลกออนไลน์ได้เกิดกระแสแชร์ข้อมูลอ้างอิงจาก “คุณต้า-ธนภัทร์ ลิ้มหัสนัยกุล” แฟนพันธุ์แท้วัดไทย ได้ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา ระบุว่า “สีทองแห่งศรัทธา” นี่แหละคือผลกระทบในระยะยาวของการทาสีทองลงบนโบราณวัตถุ เพราะสีทองเหล่านี้หากทาเอาไว้นานเข้า จะทำให้ความชื้นสะสมภายใน (ตามคุณสมบัติของสีที่ป้องกันความชื้น) ระบายออกไม่ได้ สุดท้ายก็จะระเบิดออกมาเช่นนี้ “ไม่ใช่แค่กับพระนะครับ สีทองเดี๋ยวนี้พบได้ทั้งบนเสมา ผนังอาคารด้วย”

นอกจากนี้ คุณต้ายังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกด้วยว่า “ถ้าพระพุทธรูประเบิดออกมาในลักษณะนี้แล้ว การจะประกอบกลับไปเป็นเรื่องที่ทำได้ยากครับ เพราะเนื้อวัสดุที่เป็นหินทรายหมดสภาพไปแล้ว ดังนั้น หากพระพุทธรูปโบราณระเบิด ก็ทำใจสถานเดียวครับ”

แล้วถ้าวัดทาสีทองไปแล้ว จะมีวิธีป้องกันการระเบิดไหม?
วิธีที่ควรทำที่สุดคือการเอาสีทองออก แต่ถ้าไม่ได้จริงๆ วิธีที่จะต่อลมหายใจได้ ก็จะมีเจาะช่องระบายความชื้นบริเวณฐานอาคาร เปิดหน้าต่าง/ประตูทิ้งไว้ สองวิธีจะช่วยระบายความชื้นออกจากอาคารได้ประมาณหนึ่ง

ทั้งนี้ “ไม่ว่าจะเป็นสีขาวหรือสีทองก็ไม่ต่างกัน เพราะคุณสมบัติของสีสมัยใหม่คือกันชื้น ทั้งจากข้างนอกเข้ามาและข้างในออกไป” แต่ยังไงก็กันได้ไม่หมด เพราะความชื้นสามารถขึ้นมาจากฐานรากได้ ทำให้พอความชื้นข้างในระบายออกไม่ได้ ก็จะระเบิดอย่างที่เห็น ต่างจากการลงรักปิดทอง ที่ยังมีช่องทางให้ความชื้นระบายออกได้อยู่..

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @Tata_Footprint