เมื่อวันที่ 9 ต.ค. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1 สอบปากคำนักข่าวและช่างภาพสำนักข่าวต่างประเทศแห่งหนึ่ง หลังเชิญตัวมาจากโรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ชุดสืบสวนติดตามตัวทั้งสอง จากการตรวจสอบพบว่าทั้งสองยังคงอยู่ในพื้นที่ ซึ่งพักอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี เจ้าหน้าที่จึงได้ไปเชิญตัวมาในช่วงเช้า ซึ่งความตั้งใจของทั้งสองก็จะเดินทางกลับเข้ามาในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู เพื่อมาทำหน้าที่รายงานข่าว

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า ผู้สื่อข่าวและช่างภาพทั้งสองเดินทางเข้าประเทศด้วยวีซ่าท่องเที่ยว ซึ่งผิดวัตถุประสงค์ในการเดินทางที่ขอวีซ่าท่องเที่ยวต้องใช้ในการท่องเที่ยว ไม่ใช่นำมาใช้เพื่อการทำงาน ในส่วนนี้ถือว่าเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการบริหารจัดการการทำงานของบุคคลต่างด้าว อันมีโทษปรับ 5,000 ไม่เกิน 10,000 บาท ด้วยเหตุนี้ทางเจ้าหน้าที่จึงมีความจำเป็นที่จะต้องยกเลิกเพิกถอนวีซ่าของทั้งสอง โดยขั้นตอนจากนี้ทั้งสองจะถูกคุมตัว และอยู่ในสถานะผู้ต้องหาแต่เป็นความผิดในเรื่องของการทำงานโดยผิดกฎหมาย

ในส่วนประเด็นที่เข้าไปในศูนย์ดูแลเด็ก ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ ในส่วนนี้ต้องมาไล่เรียงหาข้อเท็จจริงว่า เข้าไปโดยบุกรุกหรือไม่ มีเจตนาหรือไม่อย่างไร ทั้งนี้ จากการสอบปากคำทั้งสองให้การยืนยันว่า ในช่วงที่เข้าไปนั้นยังไม่มีการกั้นที่เกิดเหตุ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่พยาบาล เจ้าหน้าที่ อสม.ชาวบ้านอยู่ ซึ่งเมื่อเห็นชาวบ้านอยู่ทั้งสองจึงได้เข้าไป และได้เข้าไปตามห้องต่างๆ เหมือนคนอื่นๆ เข้าไปโดยใช้เวลา 15 นาที โดยใช้ช่วงที่กำลังออกมามีการกั้นพื้นที่ทำให้ต้องปีนออกมาและสื่อได้จับภาพจังหวะนั้นได้

อย่างไรก็ตาม ทั้งสองได้ระบุว่า ในการเข้าไปมีเจ้าหน้าที่ที่ใส่เสื้อกั๊กเป็นคนอนุญาตให้เข้าไปได้ ซึ่งก่อนที่จะเข้าไปได้ถามว่า can i come in ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ให้เข้ามาได้ก็เลยเข้าไป ทั้งนี้ ในห้วงเวลาดังกล่าวไม่มีวงจรปิดจับภาพได้ เนื่องจากเจ้าที่ได้ทำการถอดกล้องวงจรปิดเพื่อไปไล่เรียงดูการเกิดเหตุก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี ในวันนี้จะต้องดำเนินการให้จบเสร็จสิ้น เพื่อที่จะตอบคำถามสังคมตลอดจนตอบคำถามข้อสงสัยประชาชนคนไทยและญาติได้ ว่าทำไมลูกหลานเสียชีวิตถึงเข้าไปเอารองเท้าไม่ได้ แต่ทำไมนักข่าวเข้าไปได้ ซึ่งทาง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เน้นย้ำให้ดำเนินการอย่างชัดเจนและตรงไปตรงมา

ทั้งนี้ ในเรื่องของการเข้าไปในที่เกิดเหตุไปในฐานะนักข่าว ก็จะต้องพยายามเก็บข้อมูลเพื่อที่จะรายงานแพร่ภาพออกไปให้ได้มากที่สุด ซึ่งในส่วนนี้ต้องมาดูว่ามีเจตนาหรือไม่เจตนา ซึ่งขณะนี้เราทราบตัวคนที่ทั้งสองอ้างว่าเป็นผู้อนุญาตให้เข้าไปในที่เกิดเหตุแล้ว อยู่ระหว่างการเชิญตัวมาสอบถาม อย่างไรก็ตาม ในส่วนนี้ต้องดำเนินการตามกฏหมาย หากพบมีความผิดในกฎหมายไทยอื่นๆ ก็จะต้องรับโทษตามกฏหมายไทยก่อนก่อนที่จะผลักดันออกนอกประเทศ

ทั้งนี้ มีรายงานว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. จะมีการแถลงข่าวเรื่องนี้ในเวลา 19.00 น. วันนี้.