จากรณีตำรวจยศ “ส.ต.ท.” สังกัด ภ.จว.พังงา เกิดอาการคลุ้มคลั่งถือปืนกักขังตัวเองภายในบ้านพักหรูกลางเมืองภูเก็ต ต่อมา พล.ต.ต.เสริมพันธ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษปิดล้อมเจรจากว่า 9 ชม. ก่อนที่ “ส.ต.ท.” จะยอมจำนน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 ต.ค. มีรายงานว่า ทางตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้เผยแพร่เอกสารประชาสัมพันธ์สื่อมวลชนถึงเหตุการณ์ดังกล่าว โดยระบุว่า

จากที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อสารสังคมออนไลน์ผ่านเพจ “โหดจัง จังหวัดภูเก็ต” เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2565 เวลา 21.00 น. ได้โพสต์ข้อความ “เพื่อนบ้านเอือม ยัน-มียิงสวนออกมาจากในบ้าน แต่ตำรวจในที่เกิดเหตุไม่กล้าแม้แต่จะสวนกลับ เรียก #หน่วยปฏิบัติการพิเศษ พ่อแม่พี่ชาย ตำรวจกร่างมาเคลียร์ จึงจะจบด้วยการไปที่โรงพัก ชาวบ้านในโครงการหมู่บ้านดังบอก ตำรวจรายนี้ พฤติกรรมน่ากลัว เป็นภัยต่อสังคม” นั้น

พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ได้รับทราบเรื่องแล้ว ได้ลงพื้นที่พร้อมสั่งการให้ปิดล้อมบ้านที่เกิดเหตุ เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลอื่น จนกระทั่งสามารถจับกุมและควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ ซึ่งปรากฏข้อเท็จจริงโดยสรุปดังนี้

เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2565 เวลาประมาณ 08.30 น. ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีชายคลุ้มคลั่งลักษณะคล้ายคนเสพยา โดยจอดรถยนต์ขวางทางเข้าหมู่บ้าน พื้นที่อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต

ผวาอีก! ‘ส.ต.ท.’ คลุ้มคลั่งถือปืนในบ้านพัก ‘ตร.ติดอาวุธ’ ปิดล้อมเจรจากว่า 9 ชั่วโมง

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ถลาง ประกอบด้วย พ.ต.อ.พิสิษฐ์ ชื่นเพ็ชร ผกก.สภ.ถลาง พ.ต.ท.กฤษณะ จันทร์นิตย์ รอง ผกก.ป.สภ.ถลาง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ได้เข้าควบคุมพื้นที่และเจรจากับผู้ก่อเหตุที่หลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านพัก ทราบชื่อภายหลังว่า ส.ต.ท.ปณตกร (ขอสงวนนามสกุล) ปัจจุบันรับราชการตำรวจ อยู่ในพื้นที่จังหวัดพังงา และขอกำลังสนับสนุนจากกองบังคับการสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 8 มาร่วมปิดล้อมพื้นที่ เนื่องจากตรวจสอบพฤติการณ์ผู้ก่อเหตุแล้ว อาจเกิดเหตุร้ายแรง และได้ขออนุมัติหมายค้นต่อศาลจังหวัดภูเก็ต เพื่อเตรียมเข้าตรวจค้นจนกระทั่งเวลาประมาณ 15.30 น. บิดา มารดาของผู้ก่อเหตุได้มาช่วยเจรจาเจรจา แต่ยังไม่ยอมมอบตัว จนกระทั่งเวลาประมาณ 17.00 น. ผู้ก่อเหตุมีอาการสงบลง ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมตัวและตรวจยึดอาวุธปืนและนำมาหมายค้นทำการตรวจคันบ้านพัก ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายเพิ่มเติม จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ถลาง ในความผิดฐาน พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.