เมื่อวันที่ 12 ต.ค. ผู้สื่อข่าว รายงานว่า เฟซบุ๊กแฟนเพจ “CARE คิด เคลื่อน ไทย” เผยแพร่คำพูดนายทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี่ วู้ดซัม (Tony Woodsome) ที่กล่าวในรายการ CareTalk x CareClubHouse หัวข้อ ปราบยาบ้า – คุมอาวุธ คืนความสุขที่แท้จริงให้คนไทย มีเนื้อหาเกี่ยวกับปัญหา ยาเสพติดดังนี้

เรื่องยาเสพติด วันนี้เนี่ยค้ายากันเยอะมาก จับยากันแต่เคยเห็นรัฐบาลทำลายยาเสพติดไหม ตอนสมัยผมอยู่ จับได้ทีเป็น 20-30 ตัน แล้วผมสั่งให้เผาทีเดียว ขอเตาที่นวนครเผาเกลี้ยงหมดไม่ให้เหลือ แล้วตำรวจที่จับยาได้แล้วนำส่งของกลาง ผมให้เม็ดละ 50 สตางค์เป็นรางวัลนำจับแล้วเผาทำลาย

ไม่รู้วันนี้เวียนเทียนกลับมาหรือเปล่า ผมไม่ด่าตำรวจนะ แต่ผมด่ารัฐบาลที่หาแดกกับตำรวจ หากินกับการเลื่อนตำแหน่งของตำรวจ บาปกรรมมาก เพราะกรรมนี้มันมาตกอยู่กับประชาชน


เรื่องปัญหายาเสพติด อีกสาเหตุหนึ่งมาจากปัญหาเศรษฐกิจ เศรษฐกิจเราแย่ไง คนก็ดิ้นรนหาเงินทุกวิถีทาง ยิ่งถ้าช่องทางทำมาหากินของประชาชนที่ถูกกฎหมายหดแคบลง แต่ช่องทางที่ผิดกฎหมายมันเปิดออก เขาก็จะเลือกทำ ไม่ใช่เพื่ออะไร แต่เพื่อความอยู่รอดของครอบครัว นมไม่พอให้ลูกกิน หัวใจของคนเป็นพ่อเป็นแม่จะให้เขาทำยังไง เขาถูกบังคับให้ทำ ดังนั้น ที่ประชาชนหันหน้าเข้าหายาเสพติด เป็นเพราะว่ารัฐห่วยเอง

ผมบอกเลย ประยุทธ์พอเถอะ ไม่มีประสิทธิภาพเลย ผมเลยบอกแล้วว่า ตั้งแต่วันแรกที่ศาลให้ประยุทธ์กลับมาทำงานได้ ประยุทธ์จะไม่มีทางมีความสุข และจะไม่มีความสุขตลอดการทำงาน เพราะความห่วยในการบริหารประเทศจะออกผลขึ้นมาเรื่อยๆ ทำให้ปัญหาที่หมักหมมมานานมันจะระเบิดออกมาเรื่อยๆ


เรื่องฆ่าตัดตอนนะ มันเกิดขึ้นจากการจะล้มผม ช่วงใกล้จะมีรัฐประหารก็เลยมีวาทกรรมฆ่าตัดตอนขึ้นมา บอกว่าผมสั่งฆ่า 2,000 กว่าคน พอมีการรัฐประหาร ทหารก็รีบจัดการผมเลย เพราะกลัวว่าผมจะกลับมาได้ สุดท้ายพอตั้งกรรมการสอบมี อ.คณิต ณ นคร ซึ่งตอนนั้นเขาก็ไม่ค่อยชอบผมมานั่งเป็นประธาน พอสอบเสร็จปรากฏว่า ไม่พบว่าผมสั่งฆ่าตัดตอนใครเลยแม้แต่รายเดียว

ส่วนตัวเลข 2,000 ราย เขาเอาตัวเลขมารวมๆ กัน เอาตัวเลขคนตายผิดธรรมชาติที่ไม่เกี่ยวกับการปราบปรามยาเสพติดรวมกัน แต่ตายจริงๆ จากยาเสพติดอยู่ 80 ราย ซึ่งผมไม่ได้สั่ง แต่ในทางปฏิบัติเวลาตำรวจบุกจับมันก็มีการต่อสู้กัน ตำรวจยิงคนร้าย คนร้ายยิงตำรวจ มันก็เลยมีคนเสียชีวิตนี่เป็นการตายที่เกิดขึ้นในช่วงที่มีปราบ.

ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊กแฟนเพจ “CARE คิด เคลื่อน ไทย” .