เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลกระทบจากเหตุการณ์พนังกั้นแม่น้ำชี บริเวณบ้านสะดำศรี ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ ถูกกระแสน้ำกัดเซาะและแตกความกว้างกว่า 50 เมตร เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา ได้สร้างความเสียหายขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ เพราะนอกจากกระแสน้ำจะไหลหลากท่วมบ้านเรือนประชาชนกว่า 400 หลังคาเรือนแล้ว ยังไหลหลากท่วมนาข้าวกำลังตั้งท้องออกรวงรอเก็บเกี่ยวหลายหมื่นไร่ นอกจากนี้ยังทำให้ทรัพย์สินในบ้านเสียหายด้วย ส่งผลกระทบจิตใจชาวบ้านเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ทางจังหวัด ร่วมกับฝ่ายปกครอง ฝ่ายรักษาความปลอดภัย ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้นำชุมชน กู้ชีพกู้ภัย ได้เร่งให้ความช่วยเหลือและเร่งอพยพชาวบ้าน สัตว์เลี้ยง มาพำนักที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว และที่ปลอดภัยที่จัดเตรียมไว้อย่างต่อเนื่อง เช่น ที่หอประชุมอำเภอฆ้องชัย และศูนย์พักพิงบ้านโนนเขวา

นายชัยวัตร บุญวุฒิ อายุ 48 ปี ชาวบ้านกุดเชือม ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งครอบครัวที่อพยพเข้ามาพักพิงที่ศาลาอเนกประสงค์บ้านโนนเขวา กล่าวว่า ก่อนพนังกั้นแม่น้ำชีแตก ยังดีที่ตนและเพื่อนบ้านได้เตรียมความพร้อมก่อนหน้านี้ โดยเก็บทรัพย์สินมีค่าขึ้นเก็บไว้ในที่สูง และต้อนสัตว์เลี้ยงมาไว้ที่บ้านโนนเขวา ซึ่งเป็นหมู่บ้านใกล้เคียงและอยู่บนที่สูง อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะพาลูกเมียอพยพหนีน้ำทัน แต่นาข้าวกว่า 10 ไร่ รวมทั้งนาข้าวของชาวนาหลายหมู่บ้าน ที่กำลังอยู่ในช่วงตั้งท้องรอเก็บเกี่ยว คงจะเสียหายและเน่าตายหมด จากที่ได้ตั้งความหวังไว้ว่า ขายข้าวเปลือกปีนี้จะได้ราคาดี เนื่องจากหลายจังหวัดในประเทศไทยถูกน้ำท่วม ราคาข้าวคงจะสูงขึ้น และจะมีเงินไปใช้หนี้ ธ.ก.ส. แต่สุดท้ายก็ต้องฝันสลาย เพราะท้องนาถูกน้ำท่วมเสียหาย กลายเป็นทะเลสาบในชั่วข้ามคืนไปแล้ว

ด้านนางนันทิยา นาสมยนต์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านโนนเขวา กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในวันสองวันนี้มาเร็วแรงมาก นับจากพนังกั้นแม่น้ำชีแตก ประเมินสถานการณ์ไว้ว่าน่าจะไม่รุนแรงมากนัก แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงกลับรุนแรงกว่าที่คิดไว้ จึงมีพี่น้องจากหลายหมู่บ้านอพยพ และต้อนสัตว์เลี้ยงเข้ามาพักอาศัยในหมู่บ้าน ยังดีที่บ้านโนนเขวามีศาลาอเนกประสงค์และพื้นที่กว้างขวาง ที่เคยจัดตั้งเป็นศูนย์พักคอยช่วงโควิด-19 ไว้เป็นสถานที่รองรับ มีที่นอน ห้องสุขา เพียงพอที่จะรองรับได้อีกหลายครอบครัว โดยยังมีอพยพเข้ามาสมทบเรื่อยๆ ซึ่งมีทั้งอพยพเข้ามาพำนักที่นี่ และมาตั้งหลักรอที่จะเดินทางต่อไปพักกับญาติในหมู่บ้าน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจวนตัว ชาวบ้านที่อพยพมาหลายครัวเรือนไม่ได้นำข้าวสาร อาหารแห้งมาด้วย ดังนั้นในส่วนของอาหาร น้ำดื่ม เครื่องยังชีพจำเป็นในชีวิตประจำวัน คงต้องรอรับการช่วยเหลือจากส่วนราชการต่อไป

ขณะที่ความเสียหายเบื้องต้นบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมแล้ว 4 หมู่บ้านของ ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย จำนวน 381 หลังคาเรือน มีผู้ได้รับผลกระทบ 700 คน ปัจจุบันยังขยายเป็นวงกว้าง คาดว่าจะได้รับผลกระทบจำนวน 3 ตำบล 11 หมู่บ้าน 1,017 หลังคาเรือน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,701 คน ส่วนพื้นที่การเกษตร นาข้าวอย่างน้อย 20,000 ไร่ นอกจากนี้ยังคาดว่ามวลน้ำจะขยายวงกระทบไปยังพื้นที่ตำบลธัญญา และตำบลเจ้าท่า อำเภอกมลาไสย อีกด้วย