จากกรณี นายวีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล หรือ “ลุงศักดิ์” หรือ “ลุงศักดินาเสื้อแดง” อายุ 62 ปี ก่อเหตุบุกทำร้ายร่างกาย นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย บริเวณอาคารศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ขณะกำลังยืนให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนร้องเรียน บก.ปอท. เรื่องการแสดง “เดี่ยว 13” ของ โน้ส-อุดม แต้พานิช 

คืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 19 ก.ค. ที่ สน.พหลโยธิน นายวีรวิชญ์ หรือ “ลุงศักดินาเสื้อแดง” เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในคดี ทำร้ายร่างกาย นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กลางวงสัมภาษณ์สื่อมวลชน เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ที่ผ่านมา     

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวนกำลังสอบปากคำ และจะสรุปสำนวนส่งฟ้องอัยการในวันศุกร์นี้ เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รวบรวมหลักฐานแจ้งข้อกล่าวหา “ทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่น โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295 ประกอบมาตรา 296 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

ด้าน นายภัทรพงศ์ สุภักษร หรือ ทนายอั๋น ทนายความที่ดูแลคดีนี้ เปิดเผยว่า ด้านลุงศักดิ์ได้ให้การปฏิเสธตลอดทุกข้อกล่าวหา และเมื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้วก็เป็นเรื่องของศาล ส่วนจะเจ็บมากเจ็บน้อยไม่มีใครบอกได้ ต้องอ้างอิงจากหลักฐานทางโรงพยาบาล ซึ่งตอนนี้ต้องรอใบรับรองแพทย์อีกครั้งหนึ่ง

ทนายอั๋น กล่าวต่ออีกว่า สำหรับในเรื่องของการโอนเงินบริจาคให้กับลุงศักดิ์นั้น ไม่มีความผิดตามที่ถูกกล่าวหาตามที่นายศรีสุวรรณแจ้ง ตนเตือนไปยังนายศรีสุวรรณว่า การกระทำของนายศรีสุวรรณไร้สาระ หาเหตุผลไม่ได้ และที่สำคัญมันเป็นสาเหตุของความแตกแยก และเหตุการณ์ของลุงศักดิ์จึงเป็นบทเรียนดังกล่าว ตนจึงร้องเรียนไปยังถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้แสดงความเป็นผู้นำ ทุกอย่างจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก.