เมื่อวันที่ 29 ต.ค. นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคในฐานะฝ่ายกฎหมายพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ นายทุนจีนที่ได้รับสัญชาติไทย มีชื่อบริจาคเงินให้พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จำนวน 3 ล้านบาท เมื่อปี 2564 ว่า เบื้องต้นพรรคพลังประชารัฐตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว โดยดำเนินการตามพะราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองทุกประการ ไม่มีการฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งขั้นตอนการรับบริจาค กฎหมายว่าด้วยพรรคการเมืองเขียนไว้อย่างเคร่งครัด เมื่อได้รับบริจาคมาแล้ว ต้องจัดทำรายงานพร้อมจัดส่งเอกสารหลักฐานต่างๆ รวมทั้งสำเนาบัตรประชาชนของผู้บริจาค และรายงานให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับทราบ ซึ่งกรณีนี้ได้รับบริจาคมาเมื่อเดือน พ.ค. 2564 ทั้งนี้ พรรคพลังประชารัฐให้ความระวังเรื่องการกระทำต่างๆโดยต้องคำนึงให้เป็นไปตามกฎหมายอยู่ กรณีที่เกิดขึ้น ตนขอยืนยันกับสังคมว่า พรรคพลังประชารัฐทำทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ แต่มีความเป็นห่วงการให้สัมภาษณ์หรือการแสดงความเห็นของบางคนว่า อย่าไปให้สัมภาษณ์ใส่ความหรือวิพากษ์วิจารณ์จนทำให้พรรคพลังประชารัฐเกิดความเสียหายหรือบิดเบือนข้อเท็จจริง เพราะข้อเท็จจริงในกรณีนี้พรรคพลังประชารัฐไม่ได้ทำผิด

เมื่อถามว่ามั่นใจว่าไม่มีเหตุที่จะนำไปสู่การยุบพรรคพลังประชารัฐใช่หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ไม่มีเหตุที่ผิดกฎหมายแน่นอน เมื่อไม่ผิดกฎหมายคงไม่ต้องพูดถึงเรื่องการยุบพรรค เพราะไม่มีอยู่แล้ว ไม่มีการกระทำใดที่ผิดกฎหมายทั้งสิ้น ในฐานะฝ่ายกฎหมายได้ตรวจสอบครบถ้วนแล้ว

เมื่อถามว่า ถ้า กกต. จะขอข้อมูลหรือเรียกไปสอบสวนพร้อมชี้แจงหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า เป็นหลักการทั่วไปอยู่แล้ว การตรวจสอบของ กกต. สามารถเรียกขอเอกสารได้อยู่แล้ว ซึ่งกรณีนี้เป็นการรับเงินบริจาค พรรคต้องส่งเอกสาร ข้อมูล และรายงานให้ กกต. รับทราบอยู่แล้ว ซึ่ง กกต. ได้วางหลักเกณฑ์การรับเงินบริจาคไว้อย่างเข้มงวดและเคร่งครัดอยู่แล้ว ดังนั้น เมื่อใดที่พรรคการเมืองได้รับบริจาค ต้องรายงานให้ กกต. ทราบโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่า กกต. คงได้ตรวจสอบกระบวนการรับบริจาคเมื่อปี 2564 มาบ้างแล้ว ทุกฝ่ายดำเนินการกันไป ฝ่ายตรวจสอบก็ตรวจสอบตามหน้าที่ไป พรรคพลังประชารัฐมั่นใจอยู่แล้วว่าไม่มีปัญหาอะไร