เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 31 ต.ค. ที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พร้อม น.ส.เอ (นามสมมติ) อดีตทหารหญิงในสังกัดกองทัพไทย ยศสิบตรี หรือทหารหญิงรับใช้ของ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ (ขอสงวนนามสกุล) เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน และ พ.ต.ต.สิริวิชญ์ ชาญเตชะสิทธิ์กุล ผอ.กองคดีค้ามนุษย์ (ดีเอสไอ) เพื่อพูดคุย สอบปากคำและให้การช่วยเหลือทางคดี
นายกัณฐัศว์ กล่าวว่า วันนี้มาตามคำเชิญของผู้อำนวยการกองคดีค้ามนุษย์ ซึ่งท่านก็มีความเป็นห่วงเป็นใยในคดีของน้องเอ อดีตทหารหญิง จึงเรียกมาพบ และนอกจากนี้ยังมีองค์กรของเอกชน ส่งหนังสืออยากขอให้ทางดีเอสไอช่วยคดีของน้องเอ เพราะห่วงในเรื่องว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้มีอิทธิพลมาเกี่ยวข้องคดี เกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างไรก็ตาม การพูดคุยในวันนี้ถือว่าเป็นหน่วยงานที่ไม่ได้ทำในเชิงรับอย่างเดียว แต่ทำในเชิงรุกด้วย ต้องขอบคุณจริงๆ ในส่วนของความคืบหน้าทางคดี ตอนนี้ไปถึงชั้นอัยการแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งไปแล้ว ท่านก็ได้ฝากความห่วงใยไปว่า ถ้าคดีไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือติดขัดส่วนไหน ให้มาที่นี่ได้ ยินดีให้ความช่วยเหลือเต็มที่
นายกัณฐัศว์ กล่าวอีกว่า หลังจากจบในชั้นของอัยการแล้ว เราจะเอาทีมทนายเข้าไปช่วยดูคดีของ น.ส.เอ ที่ศาลด้วย จะไปลุยกันต่อในชั้นศาลจนสุดทาง และสำหรับใครที่เป็นผู้มีอิทธิพลที่ที่จะเข้ามายุ่งในเรื่องนี้ ตนขอเตือนให้คิดดีๆเพราะบทเรียนมี ใครที่ออกมาข่มขู่ผ่านหน้าจอ ใครที่เข้ามาแตะเรื่องนี้จุดจบไม่มีสวยสักคน ขอเตือนว่าถ้าหากจะเข้ามาก็ขอให้คิดดีๆ
นายกัณฐัศว์ กล่าวต่อว่า สำนวนคดีไม่ค่อยห่วง เพราะตำรวจ สภ.ราชบุรี ทำงานเต็มที่ ให้ความสำคัญมาก นอกเหนือจากนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ยังเข้ามาดูแลในเรื่องนี้ ตนมีความสบายใจ ทั้งนี้ ทางฟากของคณะกรรมการจริยธรรมวุฒิสภา ได้สอบถามประเด็นต่างๆ ที่อาจมีความเกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไร ซึ่งเป็นคำถามที่ค่อนข้างตรง แต่ในคำถามคำตอบเราจะไม่เอาออกมาทางสาธารณะ แต่คำถามค่อนข้างชัดเจนไล่บี้ ส่วนในวันที่ 7 พ.ย. นี้ เราจะมีนัดกันอีกครั้งกับคณะกรรมการจริยธรรมวุฒิสภา เพื่อสอบถามในประเด็นที่ตกหล่น และยืนยันในเรื่องของเอกสารอย่างไรก็ตาม ไม่มีมวยล้มต้มคนดูแน่นอน พร้อมขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ น.ส.เอ และติดตามข่าวสาร แสดงความไม่เห็นด้วย หากพบว่ามีคนของตัวเองเข้ามาเกี่ยวข้อง หากมีคนในหน่วยงานทำความผิด ก็ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ต้องขอขอบคุณที่ไม่ปกป้องกันเอง
ขณะที่ น.ส.เอ (นามสมมุติ) กล่าวว่า ส่วนที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาค้ามนุษย์ ก็มีหลายๆ เหตุการณ์ที่มันเชื่อมโยงกับการค้ามนุษย์ ขอบคุณทุกหน่วยงานที่ให้ความสำคัญในเรื่องนี้แล้วก็มีการขอให้ทางดีเอสไอ ได้ช่วยตรวจสอบในเรื่องนี้
ส่วนสภาพจิตใจดีขึ้นมากและมีกำลังใจที่ดีขึ้น ตนขอขอบคุณจริงๆ ที่มอบกำลังใจให้มา ทุกวันนี้ตนเข้มแข็งขึ้นมากๆ สำหรับเรื่องงานใหม่ ตอนนี้คิดอยู่ว่าจะเริ่มดำเนินการอย่างไรดี ด้วยสาเหตุที่ 1.คดีความที่ยังต้องขึ้นศาล และ 2.การรักษาจมูก เพราะคุณหมอได้ให้ระยะเวลาในการพักฟื้นหนึ่งเดือน ถ้าหลังจากนี้จะดำเนินการทุกอย่างเต็มที่ งานทุกอย่างก็อยากจะทำด้วยตัวเองเหมือนเดิม งานราชการก็ยังสนใจ แต่ก็มองไปที่งานอื่นๆ ไปบ้างแล้ว ทั้งนี้ทำได้หมด อะไรที่ทำได้ก็จะทำก่อน.