ตามที่ทราบกันดีว่า นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้ประกาศเจตจำนงในการว่ายน้ำข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อหารายได้นำเงินไปช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม ตามพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย โดยได้เดินทางไปยื่นหนังสือถึง กกต. ว่า สามารถทำได้หรือไม่ เพื่อขออนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมาย ก่อนจะซ้อมว่ายน้ำเป็นระยะเวลารวมแล้วกว่า 9 ครั้ง นั้น

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 5 พ.ย. นายมงคลกิตติ์ ได้โพสต์ข้อความ “กกต.ตอบแล้วไม่สามารถรับบริจาคได้ เสียใจช่วยประชาชนน้ำท่วมไม่ได้ ส.ส.เต้007” พร้อมหนังสือตอบข้อสอบถามถึงเรื่องข้อกฎหมายเกี่ยวกับการดำเนินกิจกรรมช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยพิบัติ จากคณะกรรมการเลือกตั้ง โดยระบุไว้ใจความว่า

“ตามความประสงค์จะดำเนินกิจกรรมว่ายน้ำข้ามแม่น้ำเจ้าพระยานั้น เห็นว่า สามารถดำเนินการได้ โดยต้องพึงระวังมิให้มีการกระทำใดๆ อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 73(3) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561”

“การดำเนินกิจกรรมว่ายน้ำข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดรับบริจาคเงินในนามของบุคคล องค์กร หรือมูลนิธิอื่นๆ มีลักษณะเป็นการให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อมแก่ชุมชน สมาคม มูลนิธิ วัด สถานศึกษา สถานสงเคราะห์หรือสถาบันอื่นใด นั้น เข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 73(2) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2563 ซึ่งอาจเป็นเหตุให้มีการร้องคัดค้านการเลือกตั้งได้”

อนึ่ง ขณะนี้อยู่ในห้วงระยะเวลาตามาตตรา 68(1) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 หากท่านเป็นผู้ประสงค์จะสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 และระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2565

ลงชื่อ นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการเลือกตั้ง

นอกจากนี้ นายมงคลกิตติ์ ได้ไลฟ์เฟซบุ๊กกล่าวถึงกรณีดังกล่าว ในหัวข้อว่า “เสียใจมากครับ ช่วยประชาชนไม่ได้เท่าที่ควร กกต. วินิจฉัยแล้ว ผิด พ.ร.ป.ส.ส.2561 ม.73(2) ไม่ให้ทำ”

โดยใจความตอนหนึ่งระบุว่า เนื่องจากจะครบวาระ 180 วัน ก่อนที่จะมีการครบวาระสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 23 มี.ค. 66 ซึ่งกติกาดังกล่าว ทำให้ ส.ส. หรือพรรคการเมือง ไม่สามารถที่จะนำเงินหรือระดมเงิน ทั้งทางตรงและทางอ้อม ช่วยเหลือแบ่งเบาประชาชนที่ประสบอุทกภัย ซึ่งตนก็ได้กระทุ้งให้รัฐบาลเร่งช่วยประชาชน ทั้งนอกสภาและในสภา อีกอย่างที่ทำให้ตนจำเป็นต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัว ในการที่จะระดมเงินบริจาคช่วยเหลือพี่น้องประชาชน แต่เพื่อมิให้ผิดกฎหมายเลือกตั้ง เพราะตนมีสถานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ จึงอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของ กกต. ซึ่งต้องปฏิบัติตามระเบียบ

“ตัวผมเองก็อยากว่ายน้ำเพื่อระดมเงินบริจาคเหมือนน้องโตโน่ ซึ่งเขาบริจาคให้โรงพยาบาล แต่ผมเสียใจที่เขาไม่ได้บริจาคให้ประชาชนที่กำลังประสบอุทกภัย ณ ตอนนี้ เพราะเราทราบกันดีว่า รัฐบาลไม่มีเงิน มีเงินน้อย รายรับไม่พอรายจ่าย หนี้สินของประเทศ 10.377 ล้านล้านบาท ผมก็อยากแบ่งเบาภาระของพี่น้องประชาชนให้ลดน้อยลง” ส.ส.เต้ กล่าว

นายมงคลกิตติ์ ยังระบุอีกว่า ประเด็นก็คือไม่สามารถที่จะใช้วิธีนี้ช่วยเหลือประชาชนได้ ด้วยมีสถานะเป็น ส.ส. หรือพรรคการเมือง สรุปคือ “โครงการวันแมน ออน เดอะ เจ้าพระยา ริเวอร์” ของตนไม่สามารถทำได้ เพราะผิดกฎหมาย ซึ่งมีทั้งโทษจำคุก ปรับ และตัดสิทธิทางการเมือง ตนก็ได้ปรึกษาหารือคณะกรรมการบริหารพรรคแล้วก็ไม่สามารถทำได้ เราก็ไม่สมควรฝ่าฝืน โครงการดังกล่าวจึงจำเป็นที่จะต้องยุติไป หรือพับไป เพราะตนซ้อมมาอย่างดี เดิมทีพรุ่งนี้กะว่าจะไปซ้อมที่เจ้าพระยา แต่ก็ต้องพับไป เพราะไม่สามารถทำได้ ไม่สามารถรับบริจาคได้

นายมงคลกิตติ์ ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ดังนั้นวิธีที่ตนจะช่วยต่อไป ตนจะต้องทำหนังสือถึงนายกฯ โดยตรง และนำรายชื่อประชาชนที่เดือดร้อนในตอนนี้ กี่ครัวเรือน ค่าข้าวค่าน้ำ ค่าเสียหาย จะเสนอไปถึงรัฐบาลให้ยกเลิก 1.โครงการเรือดำน้ำที่จ่ายเงินแล้วไม่ได้เรือดำน้ำ แล้วขอเงินคืนจากรัฐบาลจีน แล้วนำเงินดังกล่าวมาช่วยเหลือประชาชน 2.ให้รัฐบาลออกพระราชบัญญัติเวนคืนงบประมาณในส่วนจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่จำเป็น รวมให้ได้หมื่นกว่าล้านมาช่วยประชาชน แต่ถ้ารัฐบาลไม่ทำ รอตนเป็นรัฐบาลตนจะทำให้ เรียนพี่น้องประชาชนรับทราบโดยทั่วกัน ผมเสียใจเป็นอย่างมาก.