เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 พ.ย. นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เข้าช่วยเหลือหลังรับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีเด็กถูกปล่อยทิ้งไว้ตามลำพังไม่มีพ่อ-แม่คอยดูแลภายในห้องเช่าซอยสุขสวัสดิ์ 2 แขวงจอมทอง เขตจอมทอง กทม.

จากการเข้าตรวจสอบเป็นห้องเช่า อาศัยอยู่บนชั้น 6 พบนางศิริพร (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี แม่เด็กไม่ได้ประกอบอาชีพ อยู่กับลูกทั้งหมด 6 คน (หญิง 4 คน ชาย 2 คน) ประกอบด้วย น้องวิ้ง อายุ 3 เดือน, น้องโปน 2 ขวบ, น้องกัวร์ 3 ขวบ, น้องข้าว 5 ขวบ, น้องไนท์ 8 ขวบ, น้องแอล 10 ขวบ ส่วนพ่อเด็กคือ นายพีรพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ทำงานโรงงานย่านมีนบุรี โดยช่วงเช้าน้องไนท์ 8 ขวบ จะเดินไปเอาข้าววัดมาแบ่งกันกินกับพี่น้องทั้ง 6 คน โดยน้องไนท์จะเป็นคนคอยดูแลน้องคนเล็ก และบางครั้งก็นำเด็กไปฝากให้ย่าเลี้ยงดูซึ่ง มีห้องเช่าอยู่ใกล้เคียงกัน

นางศิริพร กล่าวว่า ตอนอยู่กับลูกทั้งหมด 6 คนและไม่ได้ประกอบอาชีพ มีแต่พ่อเด็กที่ทำงานอยู่โรงงานย่านมีนบุรี เป็นโรงงานของญาติ บางครั้งจึงต้องมาอาศัยย่าให้คอยดูแล บางวันต้องอยู่แบบอดมื้อกินมื้อเพราะเงินไม่มีสักบาท ส่วนเด็กเล็กช่วงนี้ช็อตไม่มีเงินที่จะซื้อนมให้ พี่ทนยังหางานทำไม่ได้เพราะยังต้องเลี้ยงเด็กเล็ก และตนเคยใช้ยาเสพติดแต่ปัจจุบันเลิก ใช้มาประมาณ 3 ปี แล้วส่วนแฟนก็ติดยาเสพติดด้วย หากเจ้าหน้าที่จะนำตัวเด็กไปดูแลตนอยากเลี้ยงเองมากกว่า เพราะลูกเราเราก็รักกลัวคนอื่นจะเลี้ยงไม่ดี แต่ในอนาคตก็ยังไม่รู้จะเลี้ยงดูอย่างไร หากเลี้ยงไม่ไหวก็ต้องไหวเพราะเราทำให้เขาเกิดมาแล้ว

ด้าน นางสาวหนูเรือง (สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี ย่าเด็ก กล่าวว่า ส่วนใหญ่ตนเป็นกำลังหลักในการดูแลเด็กทั้ง 6 คน แม้ตนจะลำบากแต่ก็มีกินใช้ ส่วนที่มีอดมือกินมื้อบ้างเพราะแม่เด็กไม่ได้ทำงานเราก็รับภาระไม่ไหว และปล่อยบ้านให้ล้มตนจึงต้องไปเช่าข้างนอกให้แม่เด็กอยู่ และแม่เด็กมีลูกปีต่อปีก็ไม่รู้จะหางานอะไรให้ทำ ส่วนตัวก็มีภาระลูกสาวที่เรียนหนังสืออยู่ บอลก็รู้สึกสงสารที่บางครั้งเห็นเด็กลงมือกินมื้อ ส่วนเรื่องความปลอดภัยของเด็กที่อยู่กันเองตามลำพังตนก็ฝากเพื่อนบ้านคอยดูแลไว้ ส่วนตัวเชื่อว่าแม่ของเด็กยังมีการใช้ยาเสพติด แต่ไม่พบว่ามีอาการใดๆนอกจากเวลาโมโหจะตีลูกที่เวลาลูกไม่ฟัง แต่ไม่เคยตีต่อหน้าตนเพราะว่าเกรงใจตน ส่วนใหญ่จะมีคนมาเล่าให้ฟัง ตนจึงต้องเอาเด็กมาเลี้ยงไว้ที่บ้านเนื่องจากมีความปลอดภัยกว่า

“ซึ่งตนก็อยากเห็นชีวิตของเด็กดีขึ้นมีการศึกษา ส่วนชุดที่เด็กสวมใส่อยากเห็นเด็กแต่งตัวดีขึ้น และอยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือเด็กแต่อยู่ที่ว่าพ่อและแม่เด็กจะยอมหรือไม่ ซึ่งแต่ก่อนพ่อเด็กทำงานก็มีส่งค่าเลี้ยงดูเดือนละ 1,000-2,000 บาท ให้ไว้ใช้เลี้ยงเด็ก 4 คนส่วนอีก 2 คนตัวพ่อและแม่เขาเลี้ยงเอง แต่มาถูกไล่ออกเพราะไปทำงานสายและย้ายไปทำงานกับญาติย่านมีนบุรี จนรู้สึกว่าตัวเองเหนื่อยและคิดว่าทำไมต้องมาลำบากขนาดนี้” นางสาวหนูเรือง กล่าว

นายกัน จอมพลัง กล่าวว่า ขอบคุณพี่น้องสื่อมวลชนที่ส่งข้อมูลทั้งคลิปต่างๆ มาให้ตน ซึ่งหลังจากที่ตนทราบเรื่องก็ได้ประสานไปยังรองปลัดพัฒนาสังคม หรือ พม. ทางรองปลัด พม.ก็นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลทันที จากเท่าที่ตนเห็นจะให้เด็กอยู่ลำพังแบบนี้ไม่ได้ จากที่ตนเข้าไปดูภายในห้องพักคุณพ่อเด็กไปทำงานและปล่อยให้เด็กอยู่กัน 3 คน ส่วนย่าเด็กต้องขายของเช่นมีพัดลมไม่ได้มีฝาครอบเปิดไว้หากเด็กนำนิ้วไปจิ้มอาจเกิดอันตรายได้ แล้วตอนสังเกตเห็นมีเด็ก 1 คน ที่ตัวมีบาดแผลเนื่องจากว่า เล่นอาวุธมีดกัน หากปล่อยไว้แบบนี้จะอยู่กันลำบากและเด็กก็ไม่ได้ เรียนหนังสือด้วยซึ่งวันนี้ทางผู้ใหญ่ จะมาดูเรื่องของการศึกษาและความเป็นอยู่หลังจากนี้ คงจะมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น หน้ายิ่งที่บอกว่ามีลูกทุกปีตอนคิดว่ามีลูกเมื่อพร้อม แต่แบบนี้เหมือนยังไม่มีความพร้อม ตอนจะปรึกษากับผู้ใหญ่ส่วนเรื่องของการทำหมันตนจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้เองทั้งหมด หากปล่อยไว้เป็นแบบนี้กลัวเวรกรรมจะไปตกที่เด็กและเด็กไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเวลา 10 วัน และวันนี้ตนเห็นว่ามีเด็กเล็กตกจากม้าหินที่ปล่อยให้เด็กดูแลกันเอง

ด้านเจ้าหน้าที่ พม. กล่าวว่า ผมต้องขอบคุณที่แจ้งเข้ามาซึ่งเมื่อคืนนี้ ทางด้านรัฐมนตรีประสานให้ตนลงพื้นที่ โดยตนได้ลงพื้นที่ตั้งแต่เมื่อคืน เพื่อดูว่ามีอะไรรุนแรงที่จะต้องช่วยเหลือเร่งด่วนหรือไม่ ซึ่งเมื่อลงพื้นที่พบว่าห้องปิดล็อกแต่ในตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กตนก็ไม่สามารถทำอะไรได้จึงต้องมาลงพื้นที่ในช่วงเช้าวันนี้ สิ่งที่จะทำเรื่องแรกคือการเลี้ยงดูเนื่องจากพ่อแม่ไม่มีทักษะในการเลี้ยง ประกอบกับเรื่องของอาชีพและรายได้ไม่มั่นคง เท่าที่จะจากการคุยของด้านคุณย่าส่วนใหญ่จะเอารายได้จากคุณย่าเป็นหลัก โดยอาหารเช้าน้องไนท์จะไปขออาหารเช้าจากที่วัด ซึ่งเมื่อช่วงเช้าเห็นว่าไปเอาไข่พะโล้มาจากวัด และพบว่าแม่อยู่ในห้องพักแต่ปล่อยให้น้องอายุ 7 ขวบอุ้มเด็ก และบริเวณบ้านพักที่อยู่ชั้น 6 สังเกตจากการขึ้นบันไดมีความชัน ซึ่งทางเราได้ประเมินทุกมิติ และทั้งสภาพที่อยู่อาศัย ห้องพักสกปรก บันไดชัน และมีกลิ่นอับ วันนี้จะมีการประสานงานร่วมกันระหว่างแม่เด็กคุณย่าพ่อเด็กและทาง พม. และต้องขอความช่วยเหลือจากภาคส่วนอื่นๆ ที่ทางภาครัฐไม่สามารถจัดการให้ได้

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้นำตัวเด็กทั้ง 5 คน ไปดูแลรักษาเกี่ยวกับเรื่องของความสะอาด และจะดำเนินการเยียวยาตามขั้นตอนต่อไป.