เมื่อวันที่ 21 พ.ย.  พ.ต.ท.ปัญญา ไอยราคม รักษาการ ผกก.สภ.กะปาง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมกำลังตำรวจสายตรวจสายสืบ ได้ลงพื้นที่สืบสวนหาเบาะแสและป้องกันเหตุเหตุ กรณีคนร้ายพยายามจะลักพาเด็กนักเรียน หลังจากเกิดเหตุคนร้าย 2 คน ใช้รถเก๋งสีดำลักษณะคล้ายรถยี่ห้อโตโยต้ายาริส ไม่ทราบป้ายทะเบียน เกิดเหตุเมื่อวันวันที่ 14 พ.ย. 65 เวลาประมาณ 16.30 น. บริเวณโรงเรียนวัดธรรมเผด็จ หมู่ 7 ต.ที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช

พ.ต.ท.ปัญญา กล่าวว่า หลังรับแจ้งเหตุตนพร้อมกำลังตำรวจได้กระจายกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบ และสกัดจับคนร้ายทราบว่าคนร้ายมี 2 คน เป็นหญิง 1 คน ชาย 1 คน ผู้ชายมีรูปร่างสันทัดตัดผมรองทรง ส่วนผู้หญิงมีลักษณะผมยาว ขับรถเก๋ง ดำลักษณะคล้ายรถยี่ห้อ toyota yaris ไม่ทราบป้ายทะเบียน ไม่ทราบทิศทางที่หลบหนี ได้เข้ามาในบริเวณโรงเรียนพยายามลักพาเด็กนักเรียน 3 คน ด.ช.เอ ด.ญ.บี ด.ช.ซี อายุ 8 ขวบ นักเรียนชั้น ป.2 ในขณะที่เด็กทั้ง 3 คน เล่นม้าหมุนอยู่บริเวณทางออกโรงเรียน โดยคนร้ายเข้ามาบอก ด.ช.เอ กับ ด.ช.ซี ว่า แม่ให้มารับเด็กทั้ง 3 คน กลับบ้าน แต่โชคดีที่เด็กทั้ง 3 คน มีความเฉลียวฉลาดไม่หลงเชื่อคนร้าย และสอบถามไปกลับว่าแม่ชื่ออะไรบ้าง คนร้ายบอกว่าชื่อน้ำ ด.ช.เอ จึงบอกว่าไม่ใช่แม่ตน คนร้ายจึงตรงเข้าไปไปกระชากตัว ด.ช.เอ ด.ช.เอ ต่อสู้ขัดขืน โดยการกัดไปที่แขนคนร้ายจนยอมปล่อยตัวและพากันวิ่งหนีออกมาได้ จากนั้นได้ช่วยกันตะโกนขอความช่วยเหลือ จนคนร้ายรีบขับรถหนีอย่างรวดเร็ว

พ.ต.ท.ปัญญา กล่าวว่า ตนพร้อมชุดสืบสวนได้ร่วมประชุมกับนายเจน แป้นแก้ว ผอ.รร.วัดธรรมเผด็จ นายสมพร บุญยิ่ง ปลัดงานป้องกัน อำเภอทุ่งสง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เพื่อร่วมกันกำหนดแนวทาง มาตรการ และให้คำแนะนำ ในการป้องกันเหตุต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นกับนักเรียนภายในโรงเรียน และนอกเขตโรงเรียนรวมทั้งนักเรียนในโรงเรียนทุกแห่งในเขตพื้นที่รับผิดชอบ พร้อมกับเพิ่มความเข้มงวดกวดขันในการตรวจตราสอดส่องดูแลบริเวณหน้าโรงเรียนในช่วงเช้าและเย็น หากนักเรียน ผู้ปกครองหรือคณะครูพบเห็น หรือมีข้อมูลเบาะแสของคนร้ายขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทางโทรศัพท์ 0-7549-5155, 191 หรือเพจเฟซบุ๊ก สภ.กะปาง ได้ตลอด 24 ชม.

สำหรับการสอบสวนสืบสวนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า กลุ่มคนร้ายซึ่งเคยก่อเหตุในพื้นที่ สภ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี แต่ใช้รถคนละคันกัน โดยใช้รถตู้ โตโยต้า สีขาว ทะเบียน ฮบ 6200 กรุงเทพมหานคร คาดว่าจะเป็นคนร้ายรายเดียวกัน ซึ่งคนร้ายที่เป็นผู้ชายมีชื่อเป็นเจ้าของรถตู้ ที่ใช้ก่อเหตุ จากการตรวจสอบพบว่า มีภูมิลำเนาตามบัตรประจำตัวประชาชนอยู่ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ทุกเส้นทาง เพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป.