อีกหนึ่งนักร้องนักแสดงสาวที่โด่งดังในยุค 90 สำหรับ บุ๋ม ตรีรัก ที่ออกจากวงการบันเทิงไปนาน เพื่อใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ และเพิ่งจะกลับมารับงานร้องเพลงอีกครั้งในไม่กี่ปีที่ผ่านมา ล่าสุดเธอได้มาเปิดใจในรายการโต๊ะหนูแหม่ม พร้อมเผยสาเหตุที่ต้องตัดสินใจไปใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกาในช่วงนั้น

บุ๋ม เผยว่า “เรื่องอดีตตอนดังจำได้เพราะว่าช่วงนั้นถูกวิจารณ์หนักมากว่า ช่วงสะดือโป๊ และเอวตอนนั้นแค่ 22 กางเกงก็ใส่สั้นคืบเดียวแค่ 7 นิ้ว ถือว่าเป็นขวัญใจของบรรดาสาวสอง คนในวงการอย่าง เสนาหอย ก็เอาชุดนี้มาตัดและเอามาใส่เล่นจนเกิดในตอนนั้น ส่วนงานกีฬาสีทุกโรงเรียนจะมีชุดแบบนี้หมด อาจจะเพราะว่าเราเป็นนักร้องหญิงคนไทยคนแรกที่ร้องเพลงจีบผู้ชาย ถือว่าเป็นตำนานมาก ตอนนั้นช่องสามกำลังหานางเอกแม่นาก และเราก็ไปสมัคร ซึ่งก็หาคนที่หน้าไทยและตาดุผมยาว เผอิญว่าเป็นดวงเราก็เลยได้รับเลือกให้มาเป็นนางเอกแม่นากพระโขนง คู่กับ ไทด์-เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ ซึ่งทุกคนบอกมาเป็นผีผู้หญิงที่ตาดุที่สุด ถือเป็นความภูมิใจ ที่ตัดสินใจออกจากวงการไปอยู่ที่อเมริกาคือเรารู้สึกว่าวัย 32 มันถึงจุดอิ่มตัวแล้ว แต่ไม่ได้เป็นเพราะว่าอกหักเพราะตอนนั้นเราตัดสินใจเลือกเดินออกมาเอง เราก็จับเข่าคุยเลยว่าเราไม่เห็นอนาคตร่วมกัน ความฝันของเราหรืออยากไปเรียนต่อ จนกระทั่งตอนนั้นเราไม่มีหนี้มีสินแล้ว แล้วเรารู้สึกว่าเราอาจจะไม่กลับมาเมืองไทยนะ ก็เลยบอกเค้าไป ซึ่งพอ 3 ปีที่เขารู้สึกคอยไม่ได้แล้ว เราก็เลยบอกเขาว่า ให้เค้าไปมีชีวิตใหม่ได้”

“ที่ไปอเมริกาเพราะอากาศที่นั่นมีช่วงเวลาที่คล้ายเมืองไทย ไม่มีหิมะ ถ้าอยากเห็นก็ต้องขึ้นเขาไปประมาณ 3-4 ชั่วโมง รวมไปถึงมีอาหารไทยให้กิน อาชีพแรกเราคือเด็กเสิร์ฟ ไปทำร้านอาหารไทยร้านเครื่องเทศ เราทำอยู่ประมาณ 4 ปี ทำไปด้วยเรียนไปด้วย เดินเสิร์ฟอาหารอยู่ 4 ปี และคือเรามีเพื่อนสนิทที่มาทานร้านอาหาร แล้วเค้าก็เลยรู้ว่าที่นู่นทำธุรกิจเกี่ยวกับสุนัขจะทำเงินให้กับเรา ทำอยู่ 15 ปี เริ่มจากการที่เราเป็นลูกค้าเขาก่อน สนิทกันจนเค้ามาชวนให้เราไปทำงานด้วย ซึ่งตอนนั้นเราเรียนจริงจังจนได้ใบประกาศนียบัตร และนี่คืออีกหนึ่งความภาคภูมิใจเพราะเป็นคนแรกที่ได้ใบนั้นมา ที่มาอยู่ไทยด้วยสถานการณ์โควิดที่คุณแม่บอกว่าสถานการณ์แย่มากเลยชวนเรากลับมาเมืองไทย แต่คิดว่าน่าจะกลับไปอีก ก็คงจะไป-กลับ ซึ่งเพิ่งกลับไปเมื่อช่วงคริสต์มาสปีที่แล้วอาจจะไปๆ กลับๆ ไม่ได้ถาวร”